มุมมองของโลกิ โลกิมินิซีรีส์อเมริกัน ทำขึ้นสำหรับดิสนีย์+ โดยไมเคิล วอลดรัน

มุมมองของโลกิ เรื่องราวอิงเรียกตัวละครมาร์เวลคอมิกส์ในชื่อเดียวกัน โดยเป็นซีรีส์เรื่องลำดับที่สามของดิสนีย์พลัสที่อยู่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล เรื่องราวมีความเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของแฟรนไชส์ ละครชุดนี้ผลิตโดยมาร์เวลสตูดิโอส์ โดยมี ไมเคิล วอลดรัน รับหน้าที่เป็นคนเขียนบทแล้วก็ เคท เฮอร์รอน เป็นผู้กำกับ ดำเนินเรื่องตลอดกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของแฟรนไชส์

เรื่องราวเกิดขึ้นภายหลังอเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ในปี 2019 โดยโลกิที่ปรากฏในเรื่องเป็น โลกิ ในตอนเหตุในดิอเวนเจอร์ ปี 2012 ซึ่งสามารถแอบหนีจากอเวนเจอร์ได้ เพราะกลุ่มอเวนเจอร์จากอเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ย้อนเวลากลับมาเพื่อเปลี่ยนอนาคต ทำให้เขาสามารถใช้เทสเซอร์แร็คหลบซ่อนไปได้และก็เปิดตัวหน่วยงาน องค์กรควบคุมกาลเวลา ในจักรวาลหนแรก

เรื่องเล่าภายหลังเรื่องในตอนต้นของอเวนเจอร์ส: ปราบ โลกิเวอร์ชั่นที่หลบซ่อนหนีมาจากเหล่าอเวนเจอร์ในนิวยอร์กปี 2012 กับเทสเซอร์แร็ค จัดแจงจะก่อแผนร้ายอีกรอบ ทว่าองค์กรควบคุมกาลเวลา กลับแสดงตัวรวมทั้งพาตัวโลกิไปยังที่อีกมิติเวลาหนึ่งซึ่งมีสถานะเสมือนที่ทำงานที่เคยจัดแจงเส้นตอนที่แตกกิ่งก้านสาขาออกไปจากความประพฤติของ ตัวแปร ซึ่งสามารถสร้างเส้นเวลาใหม่ที่เรียกว่า เน็กซัส อีเวนท์ รวมทั้งสามารถทำลายความสงบสุขของอีกทั้งจักรวาลได้

โลกิที่มีเคราะห์กรรมและก็ถูกตีเส้นกำหนดไว้แล้ว ก็เลยจำเป็นต้องทำความเข้าใจอนาคตที่เขาไม่เคยได้ไปถึงกับลิขิตอันมีเกียรติเพื่อเปลี่ยนและก็หาทางร่วมมือกับองค์กรควบคุมกาลเวลา ตามล่าหาตัวแปรที่สำคัญซึ่งสามารถง่อนแง่นอีกทั้งองค์กรควบคุมกาลเวลา หรือแม้กระทั้งตัวเขาเอง ร่วมด้วยเพื่อนและก็ศัตรูใหม่ โลกิเบา ๆ ศึกษาค้นพบความเจ็บ ความอาจหาญแล้วก็ตัวตนที่จริงจริงที่ตนเองไม่เคยสารภาพหรือรู้เรื่อง

แม้กระนั้นโน่นก็ทำให้อันตรายเข้าพบตัวเขารวมทั้งคนรอบข้างในจักรวาลด้วยเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวในทางมุมของโลกิที่ไม่มีผู้ใดทราบ แล้วก็จุดเริ่มแรกของชะตาชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ซีรีส์ประเด็นนี้ดำเนินเรื่องแบบสไตล์เล่าแล้วก็ทราบไปตามเรื่องราวผสมกับตลกโปกฮารวมทั้งต้มตุ๋นไป ๆ มา ๆ  ไม่เปิดเผยตัวเรื่องราวหรืออะไร ให้พวกเราเป็นผู้แทนกับโลกิตรวจไปในเรื่องราวอีกทั้งในด้านของตัวตนที่จริง ๆ ของโลกิ

และก็ผู้แสดงรอบกายอีกทั้งดีรวมทั้งร้ายที่เบา ๆ ส่งเสริมให้เรื่องราวมีความเข้มข้นในแบบอย่างของซีรีส์ที่เน้นย้ำพล็อตมากยิ่งกว่าฉากแอ็คชั่นแม้กระนั้นก็ยังไม่ทิ้งความยอดเยี่ยมในทางคอนเซปต์ที่ล้ำที่สุดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แถมหยอกล้อกับประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่ไม่มีคำชี้แจงชัดแจ้ง แม้กระนั้นก็ยังมองน่าเชื่อว่ามันเกิดขึ้นในจักรวาลกับหน่วยงานองค์กรควบคุมกาลเวลา ที่มีหน้าที่สำคัญของเรื่อง ข่าวหนัง มาร์เวล

พวกเราบางทีอาจจะเคยได้เห็นพวกซีรีส์แนวไต่สวนไล่ล่าผ่านเวลาแบบ ดร.ฮู ที่ผู้แสดงไปในสมัยต่าง ๆ แต่ว่าประเด็นนี้เล่นใหญ่ขนาดที่ว่าผลสรุปของเรื่องทำเอาค้างเติ่งและก็ทิ้งเงื่อนให้จักรวาลล้นหลาม ผู้แสดงในเรื่องก็มิได้มากไม่น้อยเลยทีเดียวมาย โดยมากจะมาในบทรับเชิญแม้กระนั้นเซอร์ไพรส์ในทุกหน้าที่โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ตามจักรวาลคอมมิค แต่ว่าในด้านของบุคคลภายนอกที่เพิ่งจะมาดูคุณก็สามารถมองประเด็นนี้ได้เช่นเดียวกัน

ไม่เหมือนกับซีรีส์เรื่องก่อน ๆ ที่คุณจะต้องทำความเข้าใจ แต่ว่าประเด็นนี้เป็นพาคุณเข้าไปมองเห็นได้สัมผัสโดยที่ไม่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับหนังเลยนิดหน่อย ด้วยเหตุว่ามันเป็นเรื่องราวในตัวของมัน เพียงแค่ผลพวงในส่วนท้ายมันส่งต่อไปถึงสื่ออื่น ๆ ในมาร์เวล ทั้งยังในหนังในจักรวาลที่กำลังจะออกฉายรวมทั้งได้รับผลพวงจากซีรีส์อย่าง วอทอิฟ…?, สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม, ดอกเตอร์ส เตรนจ์ อิน มัลติเวิร์ส ออฟ แมดเนส ที่ต่อยอดมาจากช่วงท้ายของ วันด้าวิสชั่น แล้วก็ซีรีส์หัวข้อนี้ที่โลกิจะได้ไปแสดงตัวในรูปภาพยนตร์ รวมทั้ง แอนท์‑แมน และ เดอะ วอสพ์: ควอนตัมเมเนีย

มุมมองของโลกิ สิ่งที่โชคร้ายจริง ๆ ก็เลยคือเรื่องของฉากแอ็คชั่นที่ดร็อปกว่าซีรีส์มาเวลเรื่องอื่น ๆ 

ก่อนหน้าที่ออกจะมีน้อยและไม่ค่อยชักชวนให้ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ การดำเนินเรื่องในครึ่งฤดูกาลก็คือย้ำบทสำหรับพูดและก็ความข้องเกี่ยวกว่าจะได้บู๊จริง ๆ และมีน้อยด้วย บางทีอาจด้วยเหตุว่าด้วยซีรีส์ต้องการจะโชว์พล็อตและก็ไอเดียประดิษฐ์เกี่ยวกับเวลา เรื่องราวกับบทสำหรับพูดก็เลยเป็นหัวใจหลักของเรื่องมากกว่าฉากแอ็คชั่นในสไตล์หนังซุปเปอร์วีรบุรุษ รวมทั้งด้วยความยาวของในช่วงเวลาที่มีเพียงแต่หกตอน

แม้กระนั้นเมื่อมองจบรวมทั้งคิดว่ามันไม่อิมแพ็คสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะทิ้งอะไรหลายแบบให้ติดตามต่อในฤดูกาล 2 ป้ายประกาศข้างหลังฤดูกาลแรกจบ ในฐานะซีรีส์มาเวลที่มีสองฤดูกาล การเฉลยคำตอบเงื่อนก็มองเป็นการจับยัดที่มาร์เวลปรารถนาโยงจักรวาลให้มีเหตุมีผล ว่าเพราะเหตุไรโลกิถึงจำต้องเข้ามาเกี่ยว ฟังดูเหมือนกลบพล็อตโฮลได้ แต่ว่าก็ไม่เลย มันก็ยังมองเป็นอะไรที่เท่านั้นหรอ แบบนั้นเองหรอ

ด้วยช่วงท้ายที่ไม่มีฉากยอดเยี่ยมหรือตูมตาม กลับเปิดตัวร้ายจริง ๆ ของเรื่องให้ได้มองเห็นความน่าขนลุกกับบทพูดที่ปั่นประสาทรวมทั้งน่าน่ากลัวกว่าทานอสในตอนอเวนเจอร์ เฟสก่อน ๆ อีก เพราะเหตุใดน่ะหรอ เนื่องจากมันสามารถควบคุมการไหลของกระแสเวลาได้แล้วก็เป็นสาเหตุของเรื่องทั้งผอง ซึ่งผมจะไม่กล่าวว่าเป็นคนไหนกันแน่ แม้กระนั้นผลพวงมันขยายกว้างมากมาย ๆ ภายหลังที่คุณมองซีรีส์จบ และก็ยิ่งทำให้ท่านงงงวยว่าจะตามจักรวาล หรือจะรอดูซีรีส์ฤดูกาล 2 ดี

เพราะเหตุว่ายังรู้สึกได้ว่ามันคงจะเล่าในตัวของมันได้อยู่ ซึ่งเป็นจุดเด่น เพราะว่ามันก็ยังมองสนุกสนานโดยไม่ต้องอิงจักรวาลสักเท่าไหร่ โชคดีเพราะว่าผู้แสดงโลกิในเรื่องคุณอาจจะไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าซีรีส์เปิดตัวเขาสำหรับในการเป็นตัวร้ายที่รอป่วนปั่นโลกรวมทั้งจักรวาลมาตลอด แต่ว่าคราวนี้มาร์เวลโยนไปสู่เหตุการณ์บนเส้นตอนที่อยู่ห่างจากเส้นเวลาของภาพยนตร์ ทำให้พวกเราได้มองเห็นอารมณ์และก็จิตใจของโลกิมากยิ่งกว่าเมื่อไหร่ ๆ จักรวาลเกมผีชีวะ

ทั้งยังสุข เสียใจ หัวหมอ หมดหวัง และก็โกรธเคือง แรงกระตุ้นบางสิ่งที่สนับสนุนให้เขาจะต้องร้าย มันเป็นเพราะว่าตัวเขา หรือเนื่องจากเวลากำหนดไว้ มันน่าดึงดูดมากมายด้วยเหตุว่ามุมนี้แหละที่ทำให้โลกิมีเสน่ห์จนถึงมีคู่รัก ๆ ติดตามเนื่องจากความที่เขาผีเข้าผีออกในจักรวาลมาตลอด เขามีฝีมือและก็มนตร์อันทรงอำนาจแม้กระนั้นไม่เคยได้ใช้มันจริง ๆ มาในคราวนี้เขาจะเป็นตัวละครหลัก

โลกหมุนรอบตัวเขาแล้วก็อีกทั้งจักรวาลที่แปรไปก็เนื่องจากว่าตัวเขาแม้กระนั้นอย่างที่บอกโลกิยังอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล หากคุณต้องการรู้จะเขามากยิ่งกว่านี้ ก็คงจะจะต้องไปตามเรื่องตามราวราวของเขาใน ธอร์, ดิอเวนเจอร์ส, ธอร์เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ, ธอร์ศึกอวสานเทพเจ้า, มหาสงครามล้างจักรวาล คุณจะได้รับรู้ว่าทางการไถ่บาปของเขามายังยังไง แม้กระนั้นในซีรีส์การไถ่บาปของเขาจะเป็นในอีกแบบนึง กล่าวได้ว่าซีรีส์นี้จึงควรทำให้ผู้ใดกันรักรวมทั้งเอ็นดูโลกิอย่างแน่แท้

หัวข้อหลักในเรื่องสำคัญจริง ๆ ทั้งยังเรื่องความมุ่งหมายเสรี การเลือกทำในสิ่งที่กำลังจะทำ ไหมควรจะทำ

ว่าตามที่เป็นจริงแล้วมีอยู่ใช่หรือไม่ ผ่านภาพขององค์กรควบคุมกาลเวลา หน่วยงานที่รอสั่งการเวลาแล้วก็จักรวาลให้ทุกสิ่งนั้นเป็นไปในทางที่จะต้องเป็นแล้วก็อยู่เหนื่อไปกว่าทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แม้กระนั้นเมื่อมีโลกิซึ่งเป็นตัวแปรต้องการจะเผยเรื่องจริง มันก็เลยกำเนิดเป็นความไม่ตรงกันว่าโดยความเป็นจริงพวกเราเป็นแบบที่พวกเราเป็น หรือมีคนกำหนดให้พวกเราเป็นตั้งแต่ต้น

เรื่องของอุดมการณ์แล้วก็ความไม่ลงรอยกันในหัวข้อการดูแลว่าตามที่เป็นจริงแล้วพวกเราควรจะเชื่อในสิ่งที่มองเห็น หรือ เชื่อในสิ่งที่มันเป็น ข้อความสำคัญมันออกจะที่จะมีผลเสียกับนักแสดงทุกตัวมากมาย อีกทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการเมืองผ่านเวลา เรื่องของผลพวงที่เกิดขึ้นมาจากความประพฤติบางสิ่งบางอย่างโดยแบ่งออกเป็นจักรวาล ความเจ็บของผู้ที่พากเพียรดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการควบคุมของทุกอย่างแม้กระนั้นท้ายที่สุดรวมทั้งมีสิ่งอื่นเข้ามาจัดแจงให้มันเป็นแบบนั้น

เรื่องของความปรารถนา ความรักรวมทั้งความประสงค์ดี มิตรภาพรวมทั้งความเชื่อมโยงที่มาถึงจุดแยกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อต่างข้างต่างมองดูเรื่องแตกต่างกัน เป็นการวัดระหว่างจริยธรรมและก็สิ่งที่จำเป็นที่เห็นภาพแจ่มกระจ่างมากยิ่งกว่าการนองเลือดฟันแบบสไตล์หนังวีรบุรุษเรื่องอื่น ๆ นับว่าเป็นเค้าโครงเรื่องที่ยิ่งใหญ่และก็สลับซับซ้อน แม้กระนั้นถูกพรีเซนเทชั่นออกมาอย่างเรียบง่ายไปหน่อยในส่วนท้าย นักแสดงหลักก็ล้วนมีมุมสีเทา ๆ มิได้มีมุมดีจ้ะต่างมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นโลกิที่อยากเสรีภาพ แต่ว่าพอใช้มองเห็นเรื่องจริงของสมดุลในจักรวาลจำเป็นต้องโคนงมีคนควบคุม เขาก็เลือกที่จะปลดปล่อยให้โชคชะตาของตนเองถูกควบคุม โมเบียส ผู้แสดงที่ช่วงแรกเชื่อถือว่าหน่วยงานที่ตนเองปฏิบัติงานอยู่เป็นที่ของตนเองรวมทั้งภักดีจนตราบเท่าเรื่องจริงคลอนแคลนรวมทั้งเขาเลือกที่จะทำทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างเพื่อคุ้มครองโลกิ มิตรภาพของสองคนนี้จริงแท้ที่สุดเท่าที่มาร์เวลเคยแปลความหมาย

เพราะเหตุว่าตลอดชีพโลกิไม่เคยมีเพื่อนฝูงมาก่อน และก็โมเบียสนี่ล่ะที่เปลี่ยนโลกิและก็โลกิก็เปลี่ยนโมเบียส ซิลวี่ ตัวแปรที่มองช่วงแรกจะเป็นตัวร้ายแต่ว่าตามที่เป็นจริงเธอกลับมีเหตุมีผลที่จะต้องทำแบบงั้นและก็ความเกี่ยวพันของเธอกับโลกิก็คือไฮไลท์สำคัญถึงเจตนาแล้วก็จุดหมายของคุณที่ต้องการจะทำให้เสร็จโดยไม่สนใจถึงผลปรากฏว่า เรนสเลเยอร์ ตุลาการสาวที่ถือมั่นในกฏไม่ยินยอมให้อะไรมาเปลี่ยน

หากว่าข้อเท็จจริงจะอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งเหล่าผู้แสดงลับอีกเพียบเลยที่เบา ๆ ได้รับรู้เรื่องรู้ราวจริงที่เบา ๆ โหยกเหยกความเชื่อถือรวมทั้งปฏิบัติในข้อแตกต่าง ไม่ใช่การประมาณว่าผู้แสดงไหนที่ทำเหมาะสมสุด แม้กระนั้นมันเป็นผลอะไรที่ให้สิ่งที่คุ้มที่สุด แล้วก็โน่นมาสู่ข้อสรุปที่เชิญให้อึ้งตาแตกแล้วก็ทำให้คนอีกหลาย ๆ คนรู้สึกหิวต้องการรู้แล้วว่าจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล จากนี้จะเป็นยังไงถัดไป 

ด้วยพลังผู้แสดงของทอม ฮิดเดิลสตัน แล้วก็โอเว่น วิลสัน ทำให้มันเป็นซีรีส์มีครบทุกรสอีกทั้งแอ็คชั่น ฮา รัก ดราม่า น่าตะลึงงัน ด้วยดนตรีประกอบสุดล้ำรวมทั้งงานสร้างที่แสนวิจิตรตระการตาในระดับจักรวาล ถึงแม้ซีรีส์จะเน้นย้ำบทสำหรับพูดมากยิ่งกว่าแนวทางการขายฉากแอ็คชั่นที่ทำออกมาไม่ดีสักเท่าไหร่ พล็อตโฮลที่มองเป็นการจับยัดเพื่อกับเรื่องราวของซีรีส์และก็จักรวาล และก็ตอนตอนครึ่งฤดูกาลที่ย้ำความข้องเกี่ยวกระทั่งทำให้เรื่องแอบพอง ๆ ตอนตอนสุดท้ายจะเน้นย้ำบทสำหรับพูดมากยิ่งกว่าการโชว์พลังระดับใหญ่และก็ทำให้พลังของซีรีส์ดร็อปลงก็ตาม