จอมโจรคลาสสิค ลูแปง จอมโจรลูแปง เน็ตฟลิกซ์ลูแปงเวอร์ชั่นคนดำที่ดีไซน์มาทันแฟชั่นให้คนผิวดำเป็นตัวเอกในนิยายแทนคนขาว

จอมโจรคลาสสิค อ้างอิงเรื่องราวมาจากฉบับนิยาย ถ่ายทอดมาว่าผู้แสดงนำในเรื่องเอาอย่างชีวิตลูแปงมา กระทั่งตัวเขาแปลงเป็นลูแปงตัวจริงในปัจจุบัน โดยที่ยังคงหัวใจความเป็นขุนโจรสุภาพบุรุษไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ ลูแปง สุภาพบุรุษจอมโจร เวอร์ชั่นนี้สำเร็จงานซีรีส์ เน็ตฟลิกซ์ประเทศฝรั่งเศสที่นำ อาร์แซน ลูแปง ของ มอริส เลอบล็อง คนเขียนชาวประเทศฝรั่งเศส มาต่อยอดสร้างเกิดเรื่องใหม่

โดยจับเอาการเบื้องต้นความชื่นชอบของลูแปงดั้งเดิมที่มีคนรัก ๆ รู้จักจำนวนหลายชิ้นในโลก มาสร้างให้เปรียบเสมือนผู้แสดงนำจากนิยายประเด็นนี้มีตัวตนจริง ๆ ขึ้นมาในเรื่อง โดยใช้ประโยชน์จากเรื่องที่ลูแปงไม่เคยโดนจับได้ โดยเหตุนั้นเขาก็เลยเป็นผู้ใดก็ได้ รวมทั้งมิได้จำต้องชื่อลูแปงจริง ๆ ก็ได้ หมายถึง “อัสซาน” ผู้แสดงนำในประเด็นนี้ที่มีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการจารกรรม ข่าวหนัง มาร์เวล

ความรู้ความเข้าใจปลอมโฉม และก็ไหวพริบปฏิภาณสำหรับใน การจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างอัจฉริยะ ไม่มีความต่างกับลูแปงในนิยายเลยแม้แต่น้อย นอกจากแค่เพียงว่าเขาเป็นคนดำแค่นั้น ลูแปงเวอร์ชั่นนี้เริ่ม การเลียนแบบเรื่องราวการขโมย สร้อยเพชรสมเด็จพระราชินีที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอัสซานได้ปลอมตัวเข้าไปในงานประมูลของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แล้วก็คิดแผนหลอกใช้มิจฉาชีพที่เขาลวงล่อให้มาร่วมแผนจารกรรมครั้งใหญ่นี้

แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่านี่เป็นจุดเริ่มแรกของการแสวงหา เรื่องจริงในอดีตกาลเกี่ยวกับบิดาของอัสซาน ที่ถูกผู้ว่าจ้างใส่ร้ายป้ายสีว่าลักขโมยสร้อยเพชรเส้นนี้ไป รวมทั้งจะต้องพบเจอจุดจบในคุกตั้งแต่เขาอายุเพียงแต่ 14 ปี จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมา 25 ปีเขาก็ยังไม่ลืมเลือนประเด็นนี้

รวมทั้งจากหนังสือลูแปงที่เขาได้รับมาจากพ่อ ก็เปลี่ยนเป็นแรงผลักดันให้เขาดำรงชีวิตเสี่ยงอันตรายในรอยเปื้อนจอมโจรชนิดเดียวกันกับลูแปงต่อจากนั้นมาเหมือนกัน แต่ว่าชีวิตส่วนตัวลับ ๆ นี้ก็ทำให้ชีวิต การครองเรือนของเขามีปัญหาจนกระทั่งขั้นแยกทางกับภรรยารวมทั้งลูกชายผู้เดียวด้วยเหมือนกัน

จอมโจรคลาสสิค ซีรี่ส์พรีเซ็นท์เรื่องราวของลูแปงในแบบเน้นย้ำสืบสาวทวงแค้นให้พ่อของผู้แสดงนำอัสซานที่แทนตนเองว่าลูแปง

มากยิ่งกว่าจะเป็นแถวขโมยใหญ่ ๆ ที่มีเพียงแค่ตอนต้นของฤดูกาลเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่าซีรีส์หัวข้อนี้มีเพียงแต่ 5 ตอนสุดท้ายฤดูกาล 1 เรื่องราวก็เลยกระชับมากมาย ช่วงแรกเป็นตอนที่เรียกว่าโชว์สกิล การคิดแผนปล้นให้ผู้ชมมั่นใจว่าอัสซานเก่งขนาดลูแปงจริง ๆ ที่มักมีแผนในการ ซ้อนแผนได้เปรียบกว่าที่มองเห็นเสมอ ซึ่งก็นับว่าทำเป็นว้าวพอเหมาะพอควรกับแนวทางจารกรรมเพชรออกไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ที่แนบเนียนแล้วก็มองน่าไว้ใจว่าเป็นจริงได้ระดับหนึ่ง

แม้ว่าจะมีความไม่เนียนในบางจุดก็ตาม แต่ว่าภายหลังจากช่วงแรกไปเรื่องราวจะถูกดึงไปสู่เรื่องราว การไต่ถามคดีในอดีตกาล ซึ่งระหว่างที่ลูแปงในขณะนี้กำลังสะกดรอยความน่าสงสัยของสร้อยเพชรเส้นนี้ ตัวเรื่องจะแฟลชแบ็คสั้น ๆ ตัดสลับกับตอนนี้ย้อนไปยังตอนที่เขาอายุ 14 ยังเด็ก และหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ให้เห็นที่มาที่ไปทั้งผอง

อีกทั้งคดีที่เกิดกับพ่อ การเสียชีวิตของพ่อ ชีวิตในวัยศึกษาของเขา รวมทั้งชีวิตรักซึ่งเปิดเรื่องมาพวกเราก็จะได้มีความเห็นว่าเขามีภรรยาที่แยกทางกันแล้วกับลูกชาย 1 คน ซึ่งชีวิตทุกด้านของอัสซานจะเบา ๆ ถูกเล่าเพิ่มมาเรื่อยในแต่ละตอน จนถึงเบา ๆ ประกอบเกิดเรื่องราวเชื่อมต่อกับเดี๋ยวนี้ว่าเพราะอะไร เขาถึงมาดำเนินชีวิตในแบบลูแปงในขณะนี้ ชีวิตรักโลกสองใบ

โดยมีเพื่อนเกลอคนหนึ่งที่เปิดร้านขายวัตถุโบราณสิ่งที่มีราคาบังหน้า แต่ว่าอีกด้านหนึ่งก็ช่วยเหลืออัสซานกับงานลักไปในตัว มีทั้งยังขายสินค้าที่ลักขโมยมา ทำของเอาอย่าง ตรวจตราของที่ล้ำค่าว่าเป็นของใช่หรือไม่ ซึ่งก็เสมือนคู่ซี้ลับ ๆ ของเขา และมีเรื่องมีราวราวที่ไปที่มาแฟลชแบ็คแทรกมาให้เห็นด้วยด้วยเหมือนกัน ในอีกด้านก็เกิดเรื่องราวของฝั่งตำรวจ ที่มักโดนอัสซานยุแหย่ทุกตอนจาก การตามรอยเพชรที่ถูกโจรกรรมไป

โดยมีนายตำรวจ “ยูสเซฟ” ที่ลุ่มหลงในนิยายลูแปงเพียงผู้เดียวมั่นใจว่า มิจฉาชีพที่ลักขโมยเพชรไปเป็นลูแปงตัวจริง และเพียรพยายามเชื่อมโยงหลักฐานที่หลงเหลือเพียงแต่น้อยนิดกับนิยายลูแปง แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่าไม่มีผู้ใดเชื่อเขาสักคน และแปลงเป็นตัวตลกในสถานที่สำหรับทำงานไป ซึ่งบทของยูสเซฟนี้ถึงแม้มิได้ออกมามากมาย

แม้กระนั้นก็เป็นส่วนช่วยเสริมให้เรื่องราวลูแปงดูมีตัวตนเป็นจริงได้มากขึ้น ซึ่งบทของยูสเซฟนี้จะถูกเอามาเป็นตอนจบของฤดูกาล เมื่อเขาได้มาพบกับลูแปงตัวจริงที่เขาตามหา และน่าจะเป็นนักแสดงสำคัญมีบทมากยิ่งกว่านี้ในฤดูกาลถัดไป ซึ่งเรื่องค่อนข้างจะพาอัสซานไปจนกระทั่งจุดตันของ การสอบสวนในคดี การถึงแก่กรรมของบิดาแล้ว

ในทุกตอนจะมีฉากที่ให้พระเอกได้โชว์ความเฉลียวฉลาด การเอาชีวิตรอดกับเป้าหมายที่วางไว้เหนือชั้น

ซึ่งก็ดูแล้วลุ้นสนุกสนานในระดับหนึ่งพอเหมาะพอควรในระดับซีรีส์ แต่ว่ามิได้มีฉากใหญ่โตแบบตอนต้นที่เป็น การปล้นใหญ่สุดในเรื่อง ซึ่งมองลงทุนมากมายสุดแล้ว ก็โชคร้ายที่ว่าต่อจากนั้นมิได้มีฉากพีคกว่านี้ แล้วก็จบฤดูกาลไปแบบค้างคาเรื่องราวไว้ระหว่างทางกันเลย โดยไม่มีฉากใหญ่โตจบท้ายเรื่องตามแบบหนังแนวนี้ ทำให้มีความรู้สึกไม่อิ่มไม่สุดกับเรื่องราวที่ทำมาเพียงแค่ 5 ตอนสุดท้ายแค่นั้น

สำหรับผู้ที่บางครั้งอาจจะรู้สึกขัดใจที่ลูแปงเวอร์ชั่นนี้เป็นคนดำ อันนี้ก็อาจจะต้องให้ทดลองรับดูพิสูจน์กันก่อน เพราะเหตุว่า โอมาร์ ซี ดาราในบทนี้นับได้ว่าเป็นดาราขายความสามารถมาตั้งแต่ภาพยนตร์ดังเรื่อง ด้วยใจแห่งมิตร พิชิตทุกสิ่ง เวอร์ชั่นต้นฉบับประเทศฝรั่งเศสที่เล่นเป็นคนดำที่ถูกว่าจ้างมาดูแลคนมั่งคั่งทุพพลภาพจนถึงกำเนิดมิตรภาพระหว่างชนชั้นชั้นกับสีผิวขึ้น

ซึ่งในบทลูแปงนี้มีความมากมายหลายมากมาย ในด้านหนึ่งเขาควรจะเป็นจอมโจรอัจฉริยะ ควรจะมีเสน่ห์เหลือแหล่ มีความเป็นสุภาพบุรุษ อีกด้านเขากลับกลายบิดาที่ปล่อยทิ้งเมีย จนถึงจำเป็นต้องแยกทางกัน แม้กระนั้นก็ยังเป็นคู่ซี้ที่ดีกับภรรยา ซึ่งเรื่องให้ความใส่ใจกับส่วนนี้มากมาย ทำให้เรื่องมองหวานขึ้น มีความน่ารักน่าเอ็นดูสุภาพกระจู๋กระจี๋ ๆ

จากการปูให้มีความคิดเห็นว่าทั้งสองพบกันตั้งแต่เด็กในวัยศึกษา รวมทั้งเปลี่ยนมาเป็นแฟนกันได้เช่นไร ตอนที่มีปัญหาชีวิตสมรสตลอดมาจากการที่อัสซานไม่สามารถที่จะเผยงานที่ตนเองทำอยู่ได้ แม้กระนั้นเขาก็ยังไปมาหาสู่ดูแลลูกอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะมีผิดนัดไปบ้าง รวมทั้งส่วนความจำกับบิดาที่เป็นผู้หลบภัยมาประเทศฝรั่งเศสเลี้ยงลูกผู้เดียวอย่างเข้มงวดให้เป็นคนดี มีความเป็นสุภาพบุรุษลักษณะเดียวกันกับจอมโจรลูแปงในนิยายที่พ่อให้เป็นของขวัญให้เขาอ่าน

ทำให้ลูแปงเวอร์ชั่นนี้มีมิติของนักแสดงลึกขึ้นแบบมนุษย์จริง ๆ มากยิ่งกว่าเวอร์ชั่นขุนโจรคลาสสิคสวมหมวกทรงสูงกับผ้าสำหรับคลุมในจินตนาการจากนิยายต้นฉบับ แม้กระนั้นส่วนนี้ก็บางครั้งก็อาจจะขัดใจผู้ที่อยากได้ฉากลักมากยิ่งกว่าดราม่าชีวิตก็เป็นไปได้ เนื่องจากเรื่องนับว่าใส่มาเยอะแยะพอควร ซีรีส์ลูแปงเวอร์ชั่นนี้ผู้แสดงนำของเรื่องอ้างอิงเอาอย่างชีวิตจากลูแปงในนิยาย เหมือนตนเองเป็นลูแปงแบบที่มีตัวตนจริง ๆ

ตัวเรื่องนอกเหนือจากช่วงแรกก็มิได้มีฉากโจรกรรมใหญ่มหึมาตามมา แต่ว่าเน้นย้ำไปที่ การสอบสวนสะกดรอยคดีทวงแค้นให้บิดาในอดีตกาลมากยิ่งกว่า เป็นฉากแนวสอบปากคำแล้วเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ แทน ก็ทำเป็นดีพอใช้ ลุ้น สนุกสนาน ระทึก กำลังพอดี และมีเรื่องมีราวราวปัญหาชีวิตครอบครัวมาเสริมให้เรื่องราวมองเป็นมนุษย์เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตัวเรื่องเว้นเสียแต่ทีแรก ๆ ก็มิได้มีฉากโจรกรรมใหญ่มหึมาตามมา แต่ว่าเน้นย้ำไปที่การไต่สวน สะกดรอยคดีทวงแค้นให้บิดาในอดีตกาลมากยิ่งกว่า เป็นฉากแนวสอบสวนแล้วเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ แทน ก็ทำเป็นดีพอใช้ ลุ้น สนุกสนาน ระทึก กำลังพอดี รวมทั้งมีเรื่องมีราวราวปัญหาชีวิตของการ การมีคู่ครองมาเสริมให้เรื่องราวมองเป็นมนุษย์มากเพิ่มขึ้น แต่ว่าเรื่องมีเพียงแค่ 5 ตอนสุดท้ายฤดูกาลแรก ทำให้มองเป็น การตัดจบแบบไม่ลงตัวนัก