เรื่องราวสุดปั่นป่วน สพันจ์บ็อบ ผจญภัยช่วยเพื่อนแท้ หรือสพันจ์บ็อบ เสี่ยงภัยช่วยเพื่อนยาก

เรื่องราวสุดปั่นป่วน ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่น 3 มิติที่ถูกผลิตขึ้นจากแอนิเมชั่นซีรีส์ค่าย นิคติดอยู่โลเดียน ในเครือไวอาคอมซีที่ปรึกษาความงามสสพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ ของ สตีเฟน ฮิลเลนเบิร์ก ดูแลรวมทั้งเขียนบทโดย ทิม ฮิลล์ ผู้กำกับเจ้าภาพดัง ๆ อย่าง การ์ฟิลด์ 2 ตอน ชุลมุนเจ้าชายบัลลังก์เหมียว กับ อัลวินกับเพื่อนชิพมังค์

โดยนี่นับว่าเป็นภาพยนตร์สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ลำดับที่สาม ต่อจากสพันจ์บ็อบ สแควร์แพ้นท์ เดอะมูฟวี่ (2004) แล้วก็สพันจ์บ็อบ วีรบุรุษจากใต้มหาสมุทร (2015) สร้างโดยเครือพาราเมาต์ อนิเมชั่น โดยนับว่าเป็นภาพยนตร์ที่แตกต่างจากสองลำดับงานก่อน ตรงที่สไตล์งานจะเป็นไปในทาง ซีจีไอ มากยิ่งกว่าการใช้ภาพสองมิติแบบแอนิเมชั่นซีรีส์

ซึ่งจะใช้ลักษณะผสมกับการถ่ายทำแบบไลฟ์แอ็คชั่นซึ่งคล้ายกับ ลูนี่ย์ ทูนส์ รวมพลพรรคเผชิญภัยสุดโลก หนังโปรดในวัยเด็กของผมด้วย สตีเฟ่น อาจารย์วิชาชีววิทยาทางทะเลเชื้อชาติอเมริกัน ที่นำวิชาความรู้และก็ความนิยมของตนแต่งเรื่องราวของเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลที่มีโลกรวมทั้งสังคมเป็นของตนเอง

และเรื่องราวสุดปั่นป่วนฮาที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัยของเจ้าสพันจ์บ็อบสแควร์แพนท์ ฟองน้ำสีเหลืองจอมเซ่อซ่าที่ดำรงชีวิตอยู่ในเมืองบิกินี่ บอททอมในฐานะผู้รับจ้างของร้านค้าเบอร์เกอร์ครัสตี้แคร็บที่มิสเตอร์แคร็บ นายจ้างปูทะเลจอมงกเงินเป็นเจ้าของ รวมทั้งมีสควิดเวิร์ดเพื่อนผู้ร่วมการทำงานก้าวร้าวรอหาเรื่องแล้วก็ห้ามเวลาเขาทำผิด รวมทั้งยังมีสควิดเวิร์ด ปลาดาวสติเฟื่อง

แซนดี้ กระรอกที่ดันอยู่ในสมุทรได้โดยใช้ชุดช่วยหายใจ ที่จะต้องมาปะทะกับ พลิกก์ตอนตัวเล็กแต่ว่าหัวใจเหี้ยมโหดเป้าหมายจะเอาชนะพวกเขาด้วยกลยุทธ์ทรามสำหรับในการลักขโมยสูตรเบอร์เกอร์ของร้านค้าให้โลกใต้น้ำวุ่นวายกันถ้วนหน้า ข่าวหนัง มาร์เวล

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีฉายในช่องนิคเกลโลเดียนไทย แล้วก็ช่องเคเบิลทีวี รวมทั้งเน็ตฟลิกซ์ที่ในตอนนี้มีฉายฤดูกาล 6 กับ 7 ซึ่งผมมิได้มองทุกตอน แต่ว่าสารภาพว่ามันมองสนุกสนานรวมทั้งเพลิดเพลินจริง ๆ ไม่แปลกว่าเพราะเหตุใดเฟรนไชน์นี้ก็เลยเลื่องลือมากมาย

ภาพยนตร์ประเด็นนี้ถือได้ว่าเป็นการระลึกให้กับการจากไปเมื่อปี 2018 ของ สตีเฟน ฮิลเลนเบิร์ก ผู้ผลิตซีรีส์นี้ในวัย 57 ปี อีกด้วย ภายหลังจากพาพวกเราไปตามหามงกุฏพระราชา ปราบคนร้ายเพื่อแก่งแย่งสูตรของกิน ไปในสองภาคก่อนหน้า

ภาพยนตร์จะจุดโฟกัสไปที่ความข้องเกี่ยวระหว่างสพันจ์บ็อบแล้วก็แกรี่ หอยทากเพื่อนสนิทแล้วก็สัตว์เลี้ยงที่เป็นเพียงแค่ตัวประกอบแค่นั้น แม้กระนั้นคราวนี้จะเจาะลึกให้มองเห็นถึงจุดเริ่มของความเหนียวแน่นรวมทั้งจุดสำคัญของทั้งสองผ่านการเดินทางเร่ร่อนไปในโลกใต้ทะเล จริง ๆ ภาพยนตร์ที่ควรได้ฉายในโรงภาพยนตร์ แต่ว่าอย่างที่รู้กันว่าโควิดทำให้หนังจำต้องย้ายไปฉายในบริการสตรีมมิ่งแทน

ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ก็ใจป้ำซื้อลิขสิทธิ์มาฉายได้เสร็จ แล้วก็โชคดีที่พวกเราได้เสียงไทยขาประจำตั้งแต่เริ่มกลับมาอีกด้วย กล่าวได้ว่าคนใดกันแน่ตามมาตั้งแต่เด็ก จำต้องรู้จักดีเสียงบรรยายไม่ได้ต่างอะไรกับการดูโดราเอมอนแน่ ๆ เนื่องจากถ้าเช่นนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวล่ำเวลา มาอ่านเรื่องย่อกันก่อนเลย!

“ในโลกใต้สมุทร มีสิ่งมีชีวิตใต้แนวปะการังที่อาศัยอยู่ในมหานครใต้บาดาลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า บิกินี่ บอททอม ชีวิตที่แสนสงบและก็วุ่นวายของทุกคนถึงเวลาป่วนปั่นเมื่อราชาโพไซดอนที่มหานครแอตแลนติสที่สาปสูญได้ร่วมมือกับ พลิกก์ตอน ศัตรูคู่พิพาท พาตัว แกรี่ หอยทากเพื่อนรักของสพันจ์บ็อบสแควร์แพนท์ ไปยังที่มหานคร ท่ามกลางความกลัว แล้วก็ความไม่เที่ยง ได้ผลักดันให้ฟองน้ำสีเหลืองผู้เป็นมิตร เซ่อซ่า แล้วก็ฉลาดหลักแหลม

เพื่อค้นหาความหมายของความองอาจ มิตรภาพ รวมทั้งสิ่งหวานใจก็เลยเริ่มขึ้น พร้อมเพื่อนสนิทอย่างแพททริคแล้วก็เพื่อนฝูงใหม่อีกเยอะมากที่ออกตัวจากเมืองเล็ก ๆ สู่มหานครที่พวกเขาไม่เคยหยั่งทราบ สมัยก่อนที่ไม่เคยถูกบรรยาย และก็เรื่องจริงอะไรบางอย่างที่จะเปลี่ยนโลกใต้สมุทรไปชั่วกัลปวสาน”

เรื่องราวสุดปั่นป่วน มิตรภาพแล้วก็ความกล้าหาญเป็นส่วนสำคัญสำคัญของสพันจ์บ็อบ

เรื่องราวของภาคนี้มิได้มีอะไรสลับซับซ้อน ชนิดเดียวกันกับที่อนิเมชั่นซีรีส์เป็น เป็นเล่าชีวิตที่เรียบง่ายแล้วก็วุ่นวายของเหล่านักแสดง จวบจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เรื่องเข้มข้นขึ้น สำหรับในภาคนี้ย้ำถึงเรื่องความอาจหาญของเหล่านักแสดง แล้วก็มิตรภาพที่แจ่มชัดกว่าภาคก่อน ๆ

จริงอยู่ที่หากว่าเรื่องจะเสมือนเปิดกว้างไปที่ภูมิหลังของแกรี่ แต่ว่ามันยังครอบคลุมไปถึงนักแสดงอื่น ๆ อย่างมิตรแท้ของสพันจ์บ็อบที่ออกมาให้พวกเราได้รู้ว่าตามที่เป็นจริงแล้ว เจ้าฟองน้ำสีเหลืองที่แท้ ๆ มองเงอะงะและก็น่าเบื่อหน่ายในซีรีส์ มีหัวหัวใจที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมแพ้ โอบอ้อมอารี ใจอารีกับทุกคน และก็พร้อมที่จะทำทุก ๆ อย่างเพื่อทำภารกิจให้เสร็จ

หากแม้หนังจะสับสนไปบ้างในบางช่วงเพราะเหตุว่าจำเป็นต้องให้เวลากับมุกขำขัน และก็บทของมึงปรี่ที่ไม่เด่นหรือพิเศษไปกว่าภาคก่อน ๆ มากเท่าไรนัก แม้กระนั้นสิ่งที่ผมถูกใจเมื่อใดก็ตามมองสพันจ์บ็อบมูฟวี่ เป็นการใส่มิติของนักแสดงที่มากกว่าในซีรีส์ เนื่องจากว่าแม้กระทั้งผู้แสดงที่ดูเหมือนจะร้าย แม้กระนั้นจริง ๆ ก็มีมุมดี ซึ่งพวกเราบางทีก็อาจจะมองเห็นหลายครั้งเวลามีอนิเมชั่นถูกเอามาทำเป็นภาพยนตร์ ฉากมิวสิคัลยิ่งใหญ่

พวกเขาก็จะมาร่วมมือกันเพื่อฝ่าฟันมรสุมไปอย่างกล้าหาญแล้วก็ไม่มีการเอาชนะ กล่าวได้ว่าคนไหนกันแน่ได้มองจำเป็นต้องหลงใหลนักแสดงดูเหมือนจะทุกตัวในเรื่องแน่ ๆ ล้อเลียนป๊อบคัลเจอร์ รวมทั้งมุกเฮฮาที่ไม่ต้องรู้จักอะไรมากมายก็สนุกสนานได้ แน่ ๆ ว่าการ์ตูนหัวข้อนี้ยังไม่ทิ้งลายเซ็นเดิม เป็นการล้อเลียนสื่อ นักแสดง หรือสิ่งต่าง ๆ ที่คนสามัญรู้จักราวกับอย่างสองภาคก่อน ๆ ที่ถูกใจถือมาจิกกัด มาเล่นเป็นมุกกันอย่างอบอุ่น

คนใดกันมองอะไรฮอลลีวู้ดมาเยอะแยะได้ขำแน่นอนยังไม่รวมกับความเงอะงะ ติ๊งต๊องของแต่ละผู้แสดงที่ออกมาเฉิดฉันอย่างพอดีเป๊ะ มีหลายมุกที่พวกเราเคยชิน มีบางมุกก็ทำให้พวกเราตามไม่ทัน ช่วยไม่ได้มันเป็นมุกตลกขบขันแบบอเมริกัน ทั้งยังคำกล่าว คำเสียดสีต่าง ๆ พอเพียงแปลไทยมารวมทั้งจะมึนงงหน่อย ๆ แต่ว่าถามคำถามว่าหากไม่รู้ประเด็นนี้มาดูจะเข้าใจมั้ย เข้าใจครับ เพราะว่าเรื่องราวมันง่ายดาย แบบปูมาให้พอดิบพอดี แล้วเข้าเนื้อหากันเลย

ค่อนข้างจะที่จะเป็นสูตรสำเร็จของอนิเมชั่นหัวข้อนี้อยู่แล้ว พวกเราไม่มีความจำเป็นที่ต้องรู้จักนักแสดงเพื่อมาดูประเด็นนี้ หรือมองภาคก่อนมาเพื่อเก็ตเรื่องในภาคนี้แน่ ๆ เนื่องจากว่ามันเล่าแยกอยู่แล้ว เพียงแค่อยู่ในจักรวาลเดียวกันก็พอเพียง ที่จำเป็นต้องชูความดีความชอบก็คือกลุ่มบรรยายต้นฉบับที่เคยชิน ที่ยังมีผลให้ผู้แสดงกระปรี้กระเปร่าไม่แปรไปหากแม้เวลาจะผ่านมากมายว่าสิบปีและก็ตาม

ดารารับเชิญจัดเต็มโคตร ๆ เพลงก็เพราะเหตุว่าอีกตะหาก

ถ้าหากผู้ใดได้ดูตัวอย่างหรือตามข่าวสารมาบ้างจะรู้ดีว่าผู้แสดงที่มารับเชิญในหัวข้อนี้เพียงแค่ผู้เดียวก็สะท้านแวดวงเป็นระเบียบเรียบร้อย เฮีย เคอานู รีฟส์ ที่สลัดภาพเพชฌฆาตมือสังหารจอมโหดเหี้ยมจากหน้าจอหน์ วิค มาสวมบทฯลฯเสจที่มาเป็นเพื่อนกับสพันจ์บ็อบแล้วก็เพื่อนฝูง ๆ

ซึ่งเฮียแกเสมือนเป็นผู้ที่มาแทนผู้ชมสำหรับในการนำทางนักแสดงไม่ให้นอกรีต แต่ว่าจะทำสำเร็จมั้ยอันนี้ไปดูคุ้นเคย ยิ่งกว่านั้นยังมีเซอร์ไพรส์อีกเยอะมากที่คนใดดูหนังมาเป็นว้าว อีกทั้งนักบรรยาย และก็ดาราหนัง ออกมาอย่างกับเป็นบิ๊กโปรเจกต์ที่ปีของภาพยนตร์ครอบครัวอย่างยิ่งจริง ๆ

แต่ว่าผมไม่สามารถพูดได้ อยากที่จะให้ไปดูเอง แม้กระนั้นการันตีว่าถ้าหากถึงฉากที่พวกเขาออกมาคุณจำเป็นที่จะต้องตลึงบ้างล่ะ ว่าพวกเขามาอยู่ในหัวข้อนี้ได้ยังไง! นี่ยังไม่รวมกับเพลงประกอบสไตล์ดิสนีย์ที่ขนกันมาหลายสไตล์ตั้งแต่แร็พ ฮิปฮ็อป กระทั่งถึง มิวสิคเคิล! งานภาพจัดเต็ม กับข้อความสำคัญที่มองเห็นแล้วจะต้องคิดตาม

งานภาพเมื่อไม่อิงกับโลกข้อเท็จจริง ก็เลยสร้างงานกราฟฟิคที่ขยับเขยื้อนอย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งปรับปรุงกว่าในภาค 2015 เสียอีก เนื่องจากภาพยนตร์ได้เสนอภาพที่เหมือนจริง แม้กระนั้นก็ยังไม่สูญเสียอัตลักษณ์เดิมไป พร้อมสีสันที่สวยแจ่มใสดูแล้วสบายตาแล้วก็ไม่มีความท้อแท้อย่างภาคก่อน ๆ ขั้นแรกบางครั้งอาจจะยังไม่คุ้นชิน

แม้กระนั้นมองไปเรื่อยพวกเราก็รู้เรื่องอิริยาบถรวมทั้งการเคลื่อนไหวของผู้แสดงในเรื่องเอง นอกจากนั้นใจความสำคัญยังแซะเรื่องระบบทุนนิยม ความคลั่งไคล้ในความสวย ความเป็นหัวหน้ารวมทั้งสหายที่ดี รวมทั้งความมั่นใจในตัวเอง หรือพวกเราจะสามารถมีหัวหน้าที่คู่ควรกับประชากรหรือเปล่าเช่นไร เด็กได้มองบางทีก็อาจจะรู้เรื่องบันเทิงใจ แต่ว่าคนแก่บางครั้งก็อาจจะได้อะไรมากยิ่งกว่านั้นก็ได้

ในเวลาเดียวกันหนังก็เสมือนจับเอาหนังสองภาคก่อนหน้าเขย่ารวมกันเป็นภาคนี้ เค้าเรื่องก็เลยไม่ค่อยสะดุดตาเยอะแค่ไหน เนื่องจากว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในเรื่องก็ไม่ได้มีความแตกต่างกับภาคแรก ในตอนที่พักหลังที่มีตัวละครมากมายมาร่วมสมทบก็ราวกับเป็นภาคสอง แม้กระนั้นค่อยกว่าในทางของฉากแอ็คชั่น แต่ว่ามุกขบขันนับว่ากลมกลืนกว่าภาคก่อนมากมาย แถมดาราคนจริง ๆ ก็ไม่ทำให้อารมณ์ขาดช่วงแถมมีซีนไม่กี่นาทีเลย