จุดเริ่มต้นความสำเร็จ เมื่อมองย้อนจากปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจเลือกนักแสดงให้มารับบท

จุดเริ่มต้นความสำเร็จ หลายคน บางทีอาจเคย ตั้งปัญหาว่า Marvel Studios ที่กำลัง เริ่มยืนตอนนั้น คิดด้วยเหตุผล แล้วก็กระบวนการใด สำหรับในการเลือก ไอรอนแมนขึ้นมา เป็นตัวชูโรง ในหนังเรื่องแรก ในขณะที่ ผู้แสดงตัวอื่น บางครั้ง ก็อาจจะดังมากยิ่งกว่า ในตอนที่เป็นคอมิก

อย่างกัปตันอเมริกา (ตัวอื่นๆอย่าง Spider-Man รวมทั้ง X-Men ก็ยังมิได้ สิทธิกลับมา) ยิ่งพอลงในเนื้อหาแล้ว ไอรอนแมน ยังเป็นตัวละครชั้น 2 หรือชั้น 3 ยอดนิยมน้อย จากคอมิกเลยด้วย (และก็ค่อนข้าง จะแปลงเป็น คนร้ายข้างหลังคอมิกเล่มเรื่อง Civil War) เฟรนไชส์ระดับแม่เหล็ก

ในหนังสือ The Big Picture: The Fight for the Future of Movies ซึ่งเขียนไว้โดย Ben Fritz พูดว่า ในตอนแรกที่ Marvel Studios ได้ทำศึกษา ค้นคว้าเชิงตรวจกลุ่มทดลอง ที่เป็นนักเรียนว่า นักแสดงใด ที่สตูดิโอ ควรทำ ออกมาเป็น ภาพยนตร์เรื่องแรก ภายใต้การผลิต ของ Marvel เอง ผลปรากฎว่า ไอรอนแมน เป็นนักแสดง ที่เด็กๆมีความสนใจเยอะที่สุด

เขาเขียนเอาไว้ว่า “กรรมวิธีของพวกเขาเป็น เลือกกรุ๊ปเด็กตัวเล็กๆ มากมายๆมา แล้วก็โชว์ภาพ ของซูเปอร์ฮีโร่ ให้พวกเขามอง แล้วต่อจากนั้น ก็ชี้แจง ความรู้ความเข้าใจ แล้วก็อาวุธ ของฮีโร่พวกนั้น ให้เด็กๆฟัง! แล้วหลังจากนั้น ก็ถามคำถามว่า พวกเขาต้องการ จะได้ของเด็กเล่น จากซูเปอร์ฮีโร่ผู้ใดกัน คำตอบหลายชิ้น ที่สร้างความเซอร์ไพร์ส ให้กับมาร์เวลก็คือ อยากได้จากไอรอนแมน” Fritz กล่าว

แน่ๆว่านี่ก็เป็นแนวคิดที่มองการณ์ไกล

เพราะเหตุว่า เด็กๆกลุ่มนั้น จะเป็นอันมาก ซื้อของผลิตภัณฑ์ ของเล่นเด็ก ไปได้อย่างต่ำก็ 10 ปี รวมทั้ง เมื่อเป็นวัยรุ่น ก็จะผูกพัน และก็กลายเป็นแฟน ที่เหนียวแน่นของหนัง MCU ถัดไปอีกยาวๆ! แนวความคิดหัวข้อ การขายของชนิดของเล่นเด็ก จากหนังเป็นแถวคิดของ CEO Marvel ณ เวลานั้น อย่าง Ike Perlmutter

ย้อนกลับไป เมื่อปี 2000 เขาเคยมานะ ส่งเสริมให้ X-Men (2000) ผลิตของเด็กเล่น ในตอนที่หนังออกฉาย แม้กระนั้น Fox กลับไม่เอาด้วย ถ้าหากมองดู จากเวลานี้ ก็จำต้องพูดว่า Fox คิดผิด และก็ทำให้ Marvel สูญเสียรายได้ในส่วนนี้ไปด้วย

นั่นก็ทำให้ Perlmutter เกลียดฮอลลีวูด ตลอดช่วงที่เขายังทำงาน เป็นผู้บริหารของ Marvel จนพ้นตำแหน่ง ไปในปี 2015 ซึ่งความเกลียด ที่มากเกินพอดี ก็ทำให้เขา ลงมาแทรกแซง บทหนังจนเกินไป! เช่น ใน Iron Man 3 (2013) เป็นอีกครั้ง ที่การขายของเล่น เข้ามามีอิทธิพล กับบทหนังอย่างมาก เพราะแต่เดิมบท “มายา แฮนเซน” ที่รับบทโดย Rebecca Hall ถูกกำหนดไว้ ให้เป็นตัวร้ายหลังของเรื่อง

แต่ผู้กำกับ Shane Black กลับได้รับคำแนะนำ ส่งตรงจากผู้บริหาร Marvel ให้เปลี่ยนบทซะ เพราะ “ของเล่นจะขายไม่ได้ ถ้าตัวร้ายของเรื่อง เป็นผู้หญิง” ข่าวลือวงในก็บอกว่า คำแนะนำที่ว่านี้ มาจาก Perlmutter นั่นเอง! ซึ่งก็ถือเป็นการดี ที่เขาอยู่มาไม่ถึงเฟสที่ 3 และ 4 ที่มี ตัวละครผู้หญิง มารับบทเด่น ๆ อย่างกัปตันมาร์เวล หรือแบล็ควิโดว์ ไม่อย่างนั้น Perlmutter ก็คงจะกระโดด ลงมาขวางอีกแน่นอน