เรื่องมีความแปลกใหม่ คอนโทรลซี (เน็ตฟลิกซ์) ซีรีส์สืบสวนวัยรุ่นความยาว 8 ตอน ตอนละโดยประมาณ 30 นาที
เรื่องมีความแปลกใหม่ เรื่องราวของสาววัยรุ่นที่มีปมจิตเวช แต่ว่ามีความรู้พินิจพิจารณาเดาบอกกล่าวชีวิตมนุษย์ได้เสมือนตามองเห็น เธอจำต้องมาไขคดีแฮกเกอร์ลึกลับที่เปิดเผยความลับเด็กนักเรียนทั้งยังสถานศึกษากระทั่งแปลงเป็นเรื่องราวใหญ่มโหฬาร คอนโทรลซีชื่อนี้เป็นความหมายเดียวกับ คำบัญชาของคอมพิวเตอร์ คอนโทรล + ซี เป็นการยกเลิกการทำงานครั้งปัจจุบัน ซึ่งในเรื่องเชื่อมโยงถึงเรื่องราวของแฮ็กเกอร์ที่ปลดปล่อยความลับของเด็กนักเรียนไฮสคูลจนถึงกำเนิดความวุ่นวายในสถานที่เรียนที่นี้ กระทั่งแปลงเป็นราวกับการรีเซ็ททุกสิ่งใหม่หมด
เรื่องเริ่มขึ้นจาก “โซเฟีย” สาวผู้มีนิสัยช่างสังเกตุผู้คน และมีความรู้ความสามารถ “อนุมาน” เชื่อมโยงคาดการณ์เหตุผลประกอบเหมาะ กระทั่งสามารถบอกเล่าเรื่องราวของคน ๆ นั้นได้ราวกับตามองเห็น แต่ว่าความรู้ความเข้าใจนี้เองทำให้คนอื่น ๆ ในสถานศึกษาไม่มีผู้ใดคบเธอเป็นเพื่อน แต่ว่าเมื่อเธอได้เจอกับ “ฆาบิเอร์” ผู้เรียนใหม่ที่พึ่งพิงย้ายเข้ามาและก็ได้ด้วยกันไต่สวนหาตัวแฮ็กเกอร์ที่เปิดเผยความลับของผู้เรียนในสถานที่เรียนที่นี้ ความเกี่ยวเนื่องของทั้งสองก็เลยก่อให้เกิดขึ้น ท่ามกลางความโกลาหลในสถานที่เรียนที่ใหญ่มโหฬารขึ้นเรื่อยซีรีส์เชื้อชาติ เม็กซิโก
หัวข้อนี้ให้อารมณ์ของเรื่องเหมือนพวกหนังการฆ่าสังหารวัยรุ่นที่ต้องตามหาฆาตกรในสถานศึกษา ก็แค่ไม่ใช่การฆ่าคน แต่ว่าเป็นการเปิดโปงความลับที่น่าอับอายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค จนกระทั่งทำให้เหยื่อบางครั้งก็อาจจะตายทั้งเป็นได้ แล้วก็ใช้ความลับบังคับสั่งการเด็กนักเรียนในสถานศึกษาให้ปฏิบัติตามที่ปรารถนา โดยมิได้มีเป้าหมายอะไรกระจ่างแจ้ง ซึ่งก็เป็นเงื่อนของเรื่องที่ให้พวกเราติดตามว่าผู้ร้ายเป็นผู้ใด แล้วก็สิ่งจูงใจเป็นยังไง ไปกับนางเอกที่มีสกิลอนุมานขั้นยอดเยี่ยมมากกว่าสายสืบซะอีก ข่าวหนัง มาร์เวล
ตัวเรื่องเปิดมาจัดว่าทำเป็นดีอย่างยิ่งจริง ๆ มีความน่าติดตามแปลกใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์ที่ผู้ร้ายก่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค จากการแฮ็กข้อมูลผ่านระบบไวไฟของสถานศึกษา พร้อมตั้งแอคเคาท์ทวิตเตอร์ไว้เปิดเผยทุกคนในสถานที่เรียน ทางด้านนางเอกก็โชว์สกิลความรู้ความเข้าใจที่เว่อร์สุด ๆ กันตั้งแต่ตอนแรก และเป็นความสามารถที่ถูกใช้เพื่อการดำเนินเรื่องไปด้านหน้าตลอดระยะเวลา ตัวเรื่องให้นางเอกสะกดรอยฆาตกรได้อย่างน่าทึ่งผ่านเพื่อนฝูงที่กลายเป็นเหยื่อครั้งละคน ๆ ไม่เว้นแม้กระทั้งนางเอก แล้วก็ดำเนินเรื่องชีวิตของผู้แสดงในเรื่องให้ได้ผลกระทบของความลับที่ถูกเผยขึ้นมาได้อย่างน่าติดตาม
เรื่องมีความแปลกใหม่ เรื่องเน้นย้ำส่วนของดราม่าผลพวงของเหยื่อแต่ละคนมาก ผ่านการบูลลี่แกล้งกันข้างหลังทราบว่าแต่ละคนปกปิดอะไรไว้
ตัวความลับที่ถูกเผยมีหลายชนิด แม้กระนั้นเรื่องจุดโฟกัสไปที่การปิดบังรสนิยมทางเพศของนักแสดงตอนวัยรุ่น ซึ่งก็พรีเซนเทชั่นออกมาตลอดเรื่องได้ดีมากเลยเชียว มีอีกทั้งในมุมของคนบูลลี่แล้วก็ความรู้สึกข้างหลังกลายเป็นเหยื่อเอง และก็ความรู้สึกของเหยื่อที่ถูกกระทำข้างหลังถูกเผยแม้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไรบ้างในยุคนี้แล้ว ตัวเรื่องจุดโฟกัสกับเรื่องนี้มากมายแบบตั้งอกตั้งใจชี้ให้เห็นว่าในต่างชาติเรื่องอย่างงี้ก็ยังกลายเป็นหัวข้อที่เด็กถูกบูลลี่ในสถานศึกษาเยอะที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่ความขายหน้าที่เหยื่อได้รับ
แต่ว่าตัวเรื่องใช้ข้อความสำคัญนี้สนับสนุนเรื่องราวผูกปมผู้แสดงคนแกล้งกับเหยื่อเข้าด้วยกัน จนถึงเปลี่ยนเป็นโศกการฟ้อนรำที่ขยายเรื่องให้ใหญ่มหึมาในในที่สุด จุดแข็งของเรื่องตรงการชิงความเฉลียวฉลาดกันระหว่างนางเอกกับฆาตกร ตอนแรกนับว่าน่าติดตามมากมาย มีร่องรอยใหม่นางเอกสะกดรอยและก็โต้ตอบกันผ่านแชทส่วนตัว ตัวหนังแทบจะไม่เปิดเผยให้ทราบเลยว่าคนไหนที่เพียงพอจะเป็นฆาตกรได้
แต่ว่าเพียงพอเรื่องเดินถึงตอน 4 ราวกับเรื่องอยากโชว์เหนือแบบพวกหนังฆาตกรต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแบบใส่หน้ากาก และจากนั้นก็ทำอะไรได้เว่อร์กว่าธรรมดาหลายแบบ กระทั่งผู้ชมจะต้องคิดเลยว่าฆาตกรทำเป็นอย่างไรในเมื่อนี่ไม่ใช่หนังที่มีอะไรเหนือธรรมชาติแน่นอนซึ่งถ้าเกิดคนไหนกันแน่มองพวกหนังการฆ่าสยองขวัญวัยรุ่นมานี่ก็จะเริ่มฉุกคิดแล้วว่าเป็นผู้ใดกันแน่
ตัวเรื่องตั้งแต่นี้เป็นต้นไปก็ราวกับจะขี้เกียจคร้านเล่นแนวเรื่องชิงความเฉลียวฉลาดแบบตอนแรกแล้ว หนังก็เลยเริ่มใบ้หลายสิ่งหลายอย่างมาให้ผู้ชมทายใจได้แบบแทบบอกกันชัด ๆ เลยว่าเป็นคนไหน รวมทั้งไม่รีรอที่จะเฉลยคำตอบไปเลยในตอนถัดมาอย่างง่าย ๆ ซึ่งก็ไม่ทราบจะเฉลยคำตอบออกมาเพราะเหตุไรในขณะเรื่องยังสามารถปกปิดส่วนนี้ไว้ได้ พร้อมด้วยย้อนไปเล่าที่มาสิ่งจูงใจฆาตกรเต็ม ๆ 1 ตอน สารคดีจากเรื่องจริง
ซึ่งก็โอเคสมเหตุผลอยู่ กลับไม่น่าติดตามสักเท่าไหร่ด้วยเหตุว่าเรื่องถูกเปลือยหมดเปลือกจนถึงเหลือเกิน ไม่เหลืออะไรไว้ให้คนทายใจได้อีกเลย ทั้งที่ยังไม่ถึงตอนสุดท้ายเสียด้วยซ้ำ ทำให้ในตอนที่ 8 ในที่สุดของซีซั่นนี้หมดความน่าดึงดูดใจไปแทบทั้งสิ้น มีเพียงแค่ช่วงท้ายก่อนจบของเรื่องแค่นั้นที่มีอะไรให้ลุ้น แต่ว่าก็มิได้นับว่าเยอะแยะอะไร และก็ตัดจบไปแบบไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ เป็นการจบแบบเผื่อจะมิได้ทำต่อก็จบลงนี้ได้เลย
ซึ่งมองง่ายเกินแล้วก็มิได้มีให้ลุ้นตบท้ายเลยว่าเรื่องราวจะไปต่อยังยังไงด้วยถ้าหากมีทำต่อ (จริง ๆ หากมีอีกสัก 1 ตอนคงจะสิ้นเรื่องแบบบริบูรณ์ได้เลยไม่ต้องมีซีซั่น2 ก็ได้) อีกส่วนที่ไม่ค่อยเมคเซนส์แปลก ๆ ตลอดเรื่องเป็น ความรักของนางเอกที่ตัวเธอพึ่งออกมาจากโรงหมอจิตเวชศาสตร์มา เค้าหน้าท่าทีก็มองทรุดโทรม ๆ กลับมีชายหนุ่มหล่อมาตกหลุมรัก 2 คน มีบทให้แย่งนางเอกกระทั่งดูราวกับว่าเธอเสน่ห์แรงสุด ๆ แถมดำเนินเรื่องไปแปบเดียวรักกันแล้ว
ถึงแม้ภาพยนตร์ฝรั่งชอบไวก็เถิด แม้กระนั้นประเด็นนี้ค่อนข้างจะไวแบบขาดเหตุผลเกินความจำเป็นหน่อย ทั้งยังผู้แสดงสองชายหนุ่มที่มารักก็มีปัญหาส่วนตัวกันทั้งสอง นางเอกเอกที่ดูคนเก่งกลับอ่านเหล่านี้ไม่ออกแล้วเชื่อใจจนกระทั่งรักได้อย่างไม่ยากเย็นจนถึงมองมีความขัดแย้งกับการดำเนินเรื่องหลักอยู่เสมอเวลา ก็จัดว่าตัวเรื่องมีความแปลกใหม่ในวิถีทางซีรีส์วัยรุ่น เน็ตฟลิกซ์ พอเหมาะพอควร ตั้งแต่ชื่อเก๋ ๆ มีเงื่อนนัยยะโยงกับรายละเอียดของเรื่องได้อย่างน่าดึงดูด
การดำเนินเรื่องฉับไว มีการชิงไหวพริบปฏิภาณของนางเอกกับผู้ร้ายที่น่าติดตาม แม้กระนั้นสิ่งที่มาทำให้เรื่องเสียไปเป็น ตอนใบ้กึ่งกลางเรื่องที่บอกใบ้มากเกินไป แถมยังเฉลยคำตอบไวแบบหมดเปลือกกล้วย ๆ จนถึงทำให้ตอนสุดท้ายของเรื่องไม่พีคเยอะแค่ไหน แถมยังจบแบบตัดจบทิ้งเรื่องให้ผู้ชมคิดเอาเองมากจนเกินความจำเป็น จนกระทั่งมองไม่น่าติดตามต่อในซีซั่น2 นัก
คอนโทรลซีซีซั่น2 เรื่องราวในซีซั่นนี้ขึ้นเรื่องใหม่หมด ขณะต่อจากตอนสุดท้ายซีซั่น1
สองเดือน ข้างหลังเปิดเทอมใหม่ทุกคนกลับมาเรียนพร้อมไว้อาลัยให้ลุยส์ แม้กระนั้นฆาตกรปัญหาก็ปรากฎตัวออกมาให้ทุกคนในสถานที่เรียนหาตัวเฆร์ริที่หนีไปให้พบ พร้อมกับส่งวิดีโอถึงโซเฟียให้มองเห็นถึงเหยื่อรายต่อ ๆ ไปในสถานที่เรียน ซึ่งโอกาสนี้ไม่ใช่แค่การเปิดเผยหรือแฮ็กล้วงความลับ แม้กระนั้นถึงขนาดสังหารเป็นพนัน ซีซั่นสองยกฐานะความร้ายแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาชญากรรมที่ฆาตกรในซีซั่นนี้ก่อเป็นจนตายได้เลยทั้งหมด อย่างการจับคนไปฝังทั้งที่ยังไม่ตาย การจุดไฟเผาบ้าน วางยา ทำให้ตัวเรื่องมองสนุกสนานน่าระทึกใจขึ้นกว่าซีซั่นแรกที่ไปแนวแฮ็กเกอร์ล้วน ๆ
ทั้งยังซีซั่นนี้ตัวฆาตกรถูกหลบซ่อนไว้แบบไม่มีใบ้ ไม่มีการเฉลยคำตอบก่อนเสมือนซีซั่นแรก ผู้ชมก็เลยจะต้องลุ้นไปจนกระทั่งตอนสุดท้ายของเรื่องเลย ซึ่งจุดนี้ซีซั่นสองจัดว่าทำเป็นดียิ่งขึ้นมากมาย รวมทั้งยังเอาฆาตกรอย่างราอุลในซีซั่นแรกกลับมาเป็นมิตรกับนางเอก เปลี่ยนเป็นแท็คทีมความรู้ความเข้าใจแฮ็กเกอร์บวกสกิลพินิจพิจารณาของนางเอกด้วย ทำให้เรื่องมองนานัปการมากยิ่งกว่าเดิม โดยมีเรื่องมีราวรักสามเส้ากลับมาพันพัวราวกับซีซั่นแรก
แม้กระนั้นการใช้สกิลของนางเอกในซีซั่นนี้ลดน้อยลงมาก ราวกับคนสร้างไม่ได้อยากจุดโฟกัสให้เด่นมากมายกระทั่งราวกับนางเอกเก่งเหลือเกิน ในระหว่างที่ฆาตกรซีซั่นนี้เก่งกว่าเดิมมากมาย ซึ่งเพียงพอเฉลยคำตอบว่าเป็นคนใดก็รู้สึกดูโอเว่อร์เกินจริงไปอยู่บ้าง อีกจุดที่เรื่องทำเป็นดีเลิศเป็นการจับเอาเงื่อนบูลลี่ในสถานที่เรียนของลุยส์ จากซีซั่นแรกมาขยี้ถึงแม้ว่าจะมีแหล่งที่มาลึกขึ้น
ซึ่งเป็นทั้งยังแรงบันดาลใจสำหรับในการก่ออาชญากรรมของฆาตกรใหม่ รวมทั้งเป็นดราม่าระหว่าง เฆร์ริ ที่เผยมาแพลม ๆ ตั้งแต่ซีซัานแรกว่าเขาเป็นเกย์แอบ ซึ่งชนวนเหตุของเรื่องราวรันทดที่เกิดสังกัดลุยส์ ก็มาจากที่ตรงนี้เอง ซึ่งเฆร์ริสวมบทบาทหนักของชายหนุ่มตรงไปตรงมาที่เก็บกดความเป็นเกย์ไว้เนื่องจากว่าบิดาเกลียดได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังจะต้องแบกรับความรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ทำให้ลุยส์ ตายโดยไม่ได้เจตนาไว้ตลอดระยะเวลาอีกด้วย ทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นอกเห็นใจเห็นอกเห็นใจนักแสดงนี้ได้จริง ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้แสดงนำนำเรื่องตามที
แม้กระนั้นตัวเรื่องมีปัญหาหลักอย่างหนึ่งเป็นการพยายามวางเรื่องราวรองไว้เพื่อทิ้งเงื่อนไปต่อซีซั่น3 แบบเจตนาไปหน่อย โดยคือเรื่องของที่นาตาเลียที่ลากยาวมาตั้งแต่ซีซั่นแรกว่าทำสิ่งเสพติดหายกระทั่งพ่อค้ายาตามล่าตัว ซึ่งการคั่นมาแบบมิได้เกี่ยวพันกับใจความหลักเลย ทำให้ส่วนนี้มองเป็นดราม่ากระโดดออกมาแบบแปลก ๆ
ถึงแม้เรื่องราวจะไม่ถึงกับห่วยหรือมองไม่สนุก แต่ว่าเพียงพอวางไว้อย่างงี้แล้วตอนสุดท้ายของซีซั่น2 ก็ยังไม่สะสางเพื่อเอาเงื่อนนี้ไปต่อซีซั่น3 เลยทำให้เรื่องมองค้าง ๆ ติดอยู่ ๆ แบบไม่ลงตัว แถมยังตัดจบแบบหักลำเรื่องราวเหลือเกิน โดยให้นักแสดงหลายตัวส่วนท้ายทำอะไรแบบไม่เมคเซนส์ จนกระทั่งทำให้ตอนสุดท้ายของเรื่องดูดคอยปลงไปโดยทันที แต่ว่าสิ่งที่มาทำให้เรื่องเสียไปเป็น ตอนใบ้กึ่งกลางเรื่องที่บอกใบ้มากเกินไป แถมยังเฉลยคำตอบไวแบบหมดเปลือกกล้วย ๆ จนถึงทำให้ตอนสุดท้ายของเรื่องไม่พีคมากแค่ไหน แถมยังตัดจบทิ้งเรื่องให้ผู้ชมคิดเอาเองมากจนเกินไป