ผลงานสยองขวัญ เฟียร์สตรีทถนนอาถรรพ์ หนังสยองขวัญไตรภาคที่สร้างมาจากนิยายขายดิบขายดีมาก่อนของ อาร์.แอล.สไตน์
ผลงานสยองขวัญ ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ ซื้อสิทธิ์มาทำเป็นของตนเองโดยตรง มีระบุฉายต่อเนื่องกันในก.ค. แต่ละวันวันศุกร์ช่วงบ่ายสอง ในภาคแรกเป็นเรื่องราวในปี1994 เมื่อวัยรุ่นกรุ๊ปหนึ่งพบว่าสถานะการณ์การฆ่าสังหารสยองขวัญล้นหลามที่ตามหลอกคนทั่วเมืองเชดี้ไซด์มาหลายชั่วลูกชั่วหลานทุกคดีอาจมีส่วนเกี่ยวเนื่องกัน แล้วก็พวกเขาเองบางทีอาจเป็นจุดมุ่งหมายรายถัดไป
เรื่องราวมีเพียงเท่านี้สั้น ๆ เพราะว่านี่เป็นงานยำหนังสยองขวัญเรื่องดังในสมัยก่อนมาไว้ร่วมกัน ที่ดูแลโดย ลีห์ จาเนียค ผู้กำกับซีรีส์สครีม โดยแต่ว่าล่ะภาคจะเป็นการคาราวะผลงานสยองขวัญขึ้นหิ้งอย่างศุกร์ 13 ฝันหวาน, สครีม, หลาย ๆ เรื่องมายำรวมกันทั้งยังฉากการฆ่าสังหาร คอสตูมตัวร้ายของแต่ละเรื่อง แม้กระนั้นไม่ใช่การเอามาตรง ๆ ก็มีดัดแปลงไปบ้างนิดหน่อย ซึ่งผู้ชมที่เคยดูหนังพวกนี้มาก่อนก็อาจคิดได้ว่าตรงกับเรื่องไหน
ตัวเรื่องภาคแรกใช้ปี คริสต์ศักราช1994 เป็นจุดเริ่มและก็เป็นตัวละครหลักชุดแรกที่จะมีคนรอดชีวิตไปยังเรื่องถัดไป ซึ่งหากมองชื่อภาคบางทีก็อาจจะสับสนด้วยเหตุว่าจำนวนปีย้อนกลับไปเรื่อยห่างกันถึงหลายร้อยปีในภาคสุดท้าย ที่ทำต่อกันอย่างงี้ได้ไพเราะภาคแรกเป็นตัวเปิดแฟ้มการฆ่าเรียกน้ำย่อยของเหล่าคนร้ายภูติผีปีศาจจากคดีสยองขวัญในสมัยก่อนที่มีมาก่อนแล้วหลายสิบคดีมารวมกัน
โดยมีปี 1666 เป็นจุดแรกเริ่มของตำนานความสยดสยองในเมืองที่มาจากแม่มดที่ถูกคนกรุงฆ่าตาย แล้วทิ้งคำสาปแช่งไว้ก่อนตาย ทำให้เป็นตำนานเล่าต่อ ๆ กันมาว่าคดีการสังหารโหดเหี้ยมในเมืองเกิดขึ้นเนื่องจากว่าคำสาปแช่งแม่มดตนนี้ ในฉากเปิดเรื่องภาคแรกเปิดฉากคอนเซ็ปต์ยำหนังรุ่นพี่ด้วยการนำฉากในสครีมคลาสสิกมาดัดแปลงให้คล้ายกัน ข่าวหนัง มาร์เวล
เริ่มจากมีโทรศัพท์ลึกลับเข้ามาหาหญิงสาว ก่อนจะมีคนร้ายใส่หน้ากากผีออกมาไล่เฉือนจนตายไปหลายศพในห้าง แม้กระนั้นสครีมเป็นหนังสยองขวัญการฆาตกรรมที่จะต้องคาดคะเนว่าฆาตกรเป็นคนใด แต่ว่าประเด็นนี้ไม่ใช่ เพราะว่าจบตอนเปิดเรื่องพวกเราก็จะได้มองเห็นเลยว่าผู้ร้ายเป็นผู้ใดกันแน่ ซึ่งก็ทายใจไม่ยากถ้าเกิดคนเคยมองสครีมมาก่อนอาจจะนึกออกตั้งแต่ตอนแรกแล้วด้วย และก็ในตอนแรกจบสิ้นฆาตกรถูกยิงตาย
แม้กระนั้นเรื่องกลับไปต่อด้วยแนวเหนือธรรมชาติว่าตัวฆาตกรนี้ฟื้นชีวิตกลับมาได้ ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดเริ่มต้นการยำตัวร้ายสยองขวัญในเรื่องอื่น ๆ ตามมา ถ้าหากเป็นคนชอบดูหนังแนวนี้ก็อาจจะมองแบบเพลิดเพลิน ๆ ได้ ด้วยเหตุว่าตัวเรื่องก็บากบั่นเอาฉากไล่ล่า ฉากฆ่า มุมกล้องถ่ายภาพเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของแต่ละเรื่องมารวมเอาไว้ในเรื่องเดียวกันเป็นยำรวมมิตร แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเป็นการเพียรพยายามยำโดยไม่มีอะไรแปลกใหม่มากขึ้นมาเลย จนถึงเรียกว่าต้นฉบับของแต่ละเรื่องที่จับมามีดีกว่าทั้งปวง
ยิ่งในภาคนี้เพียรพยายามใช้ตัวคนร้ายหน้ากากผีจากสครีมมาเป็นตัวหลักไล่ฆ่ามากยิ่งกว่าตัวอื่น (โดยมีตัวแบบเจสันตามมา) แม้กระนั้นเมื่อเรื่องเปิดตัวว่ามีคำสาปแช่งแม่มดนำหน้า ทุกตัวร้ายที่โผล่มาเกิดเรื่องเหนือธรรมชาติ การเอาสครีมมาใช้ก็เลยได้เพียงแค่การก็อปปี้มาเพียงแค่นั้น
เนื่องจากว่าผู้ชมเองก็ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้วว่าหมอนี่เป็นผู้ใดกัน จะโผล่มาจากที่ไหนก็ได้ด้วยเหตุว่าเป็นผี ไม่ต้องมีเหตุมีผลหลักฐานการันตีตัวตนแบบที่สครีมทุกภาคใช้ เป็นถ้าเกิดเทียบเคียงกันตรง ๆ ประเด็นนี้ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้กับสครีมทุกภาคเลยดีมากยิ่งกว่า ถึงแม้ภาคข้างหลัง ๆ จะมิได้ดีเลิศตาม
ผลงานสยองขวัญ แม้กระนั้นเฟียร์สตรีทพาร์ทวัน1994 ก็มีความมานะบากบั่นทำอะไรออกนอกกรอบอยู่บ้าง
ซึ่งสูตรสำเร็จส่วนประกอบหลักที่คือปัญหาของหนังแนวไล่เฉือนนี้ปกติก็คือ ควรจะมีผู้แสดงทึ่ม ทำอะไรทึ่ม ๆ ซึ่งหัวข้อนี้ก็มีความมานะบากบั่นให้กรุ๊ปผู้แสดงนำไม่ได้เป็นเช่นนั้น และก็มีการแหวกจารีตหนังแนวนี้ที่จะต้องมีผู้แสดงนำชายนางเอก แล้วนางเอกรอดเสมอคนในที่สุด
แม้กระนั้นประเด็นนี้กลับมี “นางเอกสองคน” แล้วก็เป็นคู่ซี้เลสเบี้ยนเป็นตัวละครหลัก เคียนา มาเดรา เล่นเป็นดีน่า โอลิเวีย สก็อตต์ เวลส์ เล่นเป็นแซม (คนนี้พึ่งเล่นเป็นนางเอกในซีรีส์ แพนิก ของแอมะซอน ไพร์ม มีเสน่ห์งามสวยแบบบ้าน ๆ เหมาะสมกับบทแนวนี้มากมาย) โดยแอบใส่ปัญหาเลสเบียนสังคมครอบครัวปฏิเสธลงไปหน่อยเสมือนเป็นสูตรสำเร็จของเน็ตฟลิกซ์
มีฉาก เซ็กส์ นิด ๆ แต่ว่าจุดอื่น ๆ ก็ยังคงไว้แบบเดิม กับมีตัวละครที่เก่งรู้มากเรื่องเรื่องราวของคดีในสมัยก่อน เป็นคนหาทางจัดการกับปัญหาให้คนภายในกรุ๊ปรอดชีวิต ซึ่งตัวเรื่องก็มีความอุตสาหะจะหลุดกรอบทึ่ม ๆ ที่ว่ามาได้ดิบได้ดีพอควร แม้ว่าจะมีฉากที่พวกเราทราบเลยว่าแยกตัวไปผู้เดียวอย่างงี้จะต้องพบแน่ แต่ว่าก็ยังแยกไป
แม้กระนั้นหนังก็มิได้ทำให้ผู้แสดงที่ปลีกตัวออกไปจำเป็นต้องพบเจอจุดจบ เพียงแค่ไปพบแล้วฮึดสู้ได้ โดยทั้งยังกรุ๊ปที่มีกัน 5 คนก็ยังอยู่ครบจนกระทั่งด้านหลัง ๆ เรื่อง แม้กระนั้นพอเพียงไม่มีนักแสดงหลักตายเลย (ก่อนนั้นมีแต่ว่าตัวประกอบตาย) คนรักกันดั้มห้ามพลาด
ผู้ผลิตอาจมีความคิดว่าสักครู่จะไม่ถูกสูตรมากมายไป บทช่วงท้ายก็เลยพากันตายกล้วย ๆ ทึ่ม ๆ แบบเก่งมาอีกทั้งเรื่องกลับมาตายเพื่อมีฉากฆ่าแบบคลาสสิกเริ่มแรกเกิดมาเพียงแค่นั้น อย่างถูกขวานจามหัวแบบไม่ทันรู้ตัว ถูกจับยัดใส่เครื่องหั่นเนื้อ ซึ่งก็เป็นความเพียรพยายามขายฉากแหวะส่งท้ายก่อนจบ แต่ว่าก็ยังทำไม่สะใจเท่าต้นฉบับรุ่นพี่เก่า ๆ อยู่ดี และตามสูตรอีกนั่นแหละที่หนังแนวนี้ควรจะมีฉากจบท้ายเผื่อทำภาคต่อ
แต่ว่าประเด็นนี้เป็นก่อนมองพวกเราก็รู้อยู่แล้วว่ามีต่อ ฉากจบท้ายตามสูตรก็เลยเปลี่ยนเป็นฉากหักมุมนิด ๆ ส่งต่อขึ้นเรื่องใหม่ไปยังภาคถัดไป โดยก็ยังคงนักแสดงชุดแรกที่รอดได้ไปต่อภาคสอง กับนักแสดงใหม่มาชดเชยผู้ที่ตายไป
แล้วก็ภาคถัดไปจะย้อนกลับไปปี 1978 เป็นคดีความคนร้ายถือขวานไล่ฆ่าคนภายในแคมป์วัยรุ่น ก็คือเรื่องราวแนวเจสัน วันศุกร์ 13 นั่นแหละ แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องในภาคแรกนี้ได้เฉลยคำตอบไว้หมดแล้วว่าผู้ใดกันรอดชีวิตจากข่าวสารในอดีตกาล ก็จำต้องมาดูกันถัดไปว่าจะมีอะไรพลิกแพลงได้มากกว่านี้ครับผม
เฟียร์สตรีทพาร์ทวัน:1994 เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สามภาคตื่นเต้นที่น่าติดตามภาคถัดไปมหาศาล
ผูกปมรวมทั้งตบท้ายเงื่อนใหญ่ไว้ภาคถัดไปได้น่าติดตามต่อ เรื่องราวในตอนทีแรก ๆ ๆ ของเรื่องมองบางทีอาจจะมึนงง ๆ มองไม่น่าใช่เงื่อนใหญ่อะไรมากมายหนัก แต่ว่าพอเพียงมาส่วนท้าย ๆ เรื่องก็ทิ้งเงื่อนใหญ่ไว้ให้ผู้ที่รับดูต้องการจะมองภาคถัดไป การดำเนินเรื่องราวในขั้นแรกคิดว่าจะเฉื่อย ๆ ไปนิดหน่อย
มีบางฉากที่ก็เอ๊ะ ตะหงิดดวงใจอยู่บ้าง จะใส่มาเพราะเหตุใดบ้าง ฉากไล่ฆ่าด้านในเรื่องก็เชิญให้ตื่นเต้นไปกับผู้แสดง ลุ้นไปแบบเดียวกันว่าผู้แสดงจะตายไหม จะฆ่านักแสดงไหนทิ้งไหม แม้กระนั้นเพียงพอเริ่มมาช่วงท้ายเรื่อง ก็คิดว่าการดำเนินเรื่องราวดำเนินไปเร็วมาก รวบรัด กระทั่งทิ้งความระทึกใจ ลุ้นระทึกไป กลับมาแทนที่ด้วยความงงมาก งงเต็กเพราะว่าในความรู้สึกของคนเขียนเอง ลุ้นให้นักแสดงหนึ่งรอดจากการตามฆ่าได้ เพียงพอรอดมาได้แล้ว ก็เกิดเหตุอีกจนถึงเกิดเรื่องวุ่นวายถัดไป
แม้กระนั้นก็มองเป็นไปตามฉบับหนังตื่นเต้น ความรู้สึกที่ตามมาเป็น ความลุ้น ความข้องใจ แล้วก็ความน่าติดตามถัดไปว่า เรื่องราวในปี 1978 นั้นเป็นเยี่ยงไร ด้วยเหตุว่าก็มีการเกริ่นไปในเรื่องแล้วว่า มีผู้มีชีวิตรอดมาก็จริง แต่ว่าแม่มดจะไม่หยุดตามฆ่าแน่ ๆ ก็น่าติดตามถัดไปว่า แซม และก็ดีน่า จะรอดได้กลับมาปกติไหม ในส่วนของเรื่องงานภาพ
ส่วนตัวของนักเขียนนั้นก็มิได้ว้าวอะไรมากเท่าไรนัก คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ ในเรื่องก็สมจริงสมจังมีลอย ๆ บ้างในบางฉาก พาพวกเราย้อนกลับไปในสมัย 90 ก้าวหน้า หนังตื่นเต้นอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเป็น ซาวน์ประกอบข้างในเรื่อง ถ้าใส่ประกอบไปได้ถูกจังหวะก็จะเพิ่มความลุ้นระทึกไปได้มาก ซึ่งข้างในประเด็นนี้เองก็ใส่ซาวด์เอฟเฟคก้าวหน้า ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เรื่องลุ้นระทึก ตระหนกตกใจ และก็ลุ้นไปตามเรื่องราว
จุดพีคในเรื่องสำหรับคนเขียนเองมีความรู้สึกว่า พีคมากมาย มีความรู้สึกว่าจะมีจุดที่พีคอยู่ร่วมกัน 2 ข้อเสียกัน ขอแอบกระซิบบอกเลยว่า อึ้งไปกับการเฉลยคำตอบไปออกจะมากมายอยู่เหมือนกัน ส่วนเงื่อนของแม่มดที่ทิ้งเอาไว้ในภาคถัดไปอันนี้ก็มองเป็นเงื่อนใหญ่ของเรื่องที่น่าติดตามถัดไปมากมาย คนร้ายที่เรื่องออกแบบมากมายข้างในเรื่องก็ได้มองเห็นความขาดความกรุณาปรานียังไม่เท่าไรนักเยอะแค่ไหนนัก
กรรมวิธีฆ่าจะเริ่มโหดเหี้ยม ๆ ก็เป็นตอนด้านหลังเรื่องเลย ที่แนวทางที่ฆ่ามีความรู้สึกว่าชั่วร้ายมากมาย ๆ ดูแล้วภาพยังคงติดตาอยู่ เรื่องราวความสนุกสนานร่าเริงในภาคถัดไปจะสนุกสนานเท่าภาคแรกไหมก็อาจติดตามกันถัดไป ในส่วนของนักเขียนเองคาดว่าเรื่องราวในภาคสองที่เล่าย้อนไปในปี 1978 คงจะบันเทิงใจกว่าภาคแรกแน่ ๆ
