ใฝ่สูงในความเป็นสิ่งใหม่ ผลงานของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ยังคงเฮี้ยนในพลอตสุดประหลาดล้ำ
ใฝ่สูงในความเป็นสิ่งใหม่ โดยยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขามาจับ เรื่องเกี่ยวกับ ความเป็นจริง คราวนี้ก็ได้แต่ว่า จะต้องเหวอกิน ไปเสียทุกหน แล้วก็สิ่งที่ใช้ใน การเล่นกับ ความเป็นจริงของ โนแลนคราวนี้! เขาใช้ของพอเหมาะ อย่างการเคลื่อนที่ ไปหน้า-ย้อนไปของ เวลา ได้อย่างที่จำเป็น ต้องกุมขมับว่า ภาพสถานะการณ์ ข้างหน้า พวกเรากำลังมอง อะไรเกิดขึ้นอยู่กันแน่? เนื่องจาก มันช่างแปลก แล้วก็ขาดปาก ชี้แจงที่ มากพอเพียง
จุดกำเนิดความเหวอ ในฉากหนึ่ง ที่เรื่องราว เริ่มเฉลยคำตอบ ข้อตกลงของเวลา ธรรมดา โนแลนจะให้ เวลากล่อมเกลี้ยงหนัง แต่ละเรื่องของเขา ให้มีช่องว่างระหว่างการฉาย แต่ละเรื่องอยู่ราว2 ปี แม้กระนั้นกับ Tenet น่าจะเป็นโพรเจ็กต์ ที่เล่นใหญ่ เอาการของโนแลน เริ่มเทรนด์ขึ้นมา
เนื่องจากว่า หัวข้อนี้เว้นจาก เรื่องก่อนหน้าอย่าง Dunkirk อยู่ถึง 3 ปี ซึ่งไม่มั่นใจว่า ตอนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะมีผลให้ บทหนังของเขา! คมขึ้น หรือเกินไป หลายโยชน์กันแน่ เนื่องจาก สิ่งหนึ่งที่ พวกเราสัมผัสได้ เกือบจะตรงกันเป็น มึนงง แต่เพราะ จากความ ใฝ่สูงในความเป็นสิ่งใหม่
งุนงงในที่นี้ จำต้องพูดว่า ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เรื่องหนังเลย พวกเราบางทีอาจรู้ เรื่องเรื่องราวสำคัญๆได้ เกือบจะทั้งหมด ว่าคนใด เป็นใครกันแน่ อยู่ข้างไหน เส้นเรื่องหลัก ผู้แสดงพวกนี้ มีเป้าหมายอะไร หรือตลอดจน จุดหักมุม ที่ก็มิได้ใหม่ จนถึงทายใจไม่ออก หลายจุดเชย ในพลอต แบบหนังลูป ในตอนที่ ทายใจได้ง่าย ตั้งแต่ต้น เสียด้วยซ้ำ
เคนเน็ธ บราที่นาห์ กับบทตัวร้ายที่ดุเดือด
แต่ว่าขาดเวลา สำหรับเพื่อการสร้าง การเขียนจำที่ มากเพียงพอ ในช่วงเวลาที่อลิซาเบ็ธ เดบิกกี ก็เป็นดอกไม้เดียว กึ่งกลางป่า ดงชายหนุ่มๆที่! ช่วยทำให้หนัง มีชีวิตชีวา ขึ้นเยอะแยะ สิ่งที่พวกเราไม่รู้เรื่อง กลายเป็น การร้อยต่อ ของฉากเหตุเสีย มากกว่าที่ เดินหน้าถอยหลัง/ถอยหลัง เดินหน้าไปๆมาๆ อยู่เกือบ จะตลอด
การปลดปล่อยศัพท์ ที่ไม่น่าเข้าใจง่ายๆ ทั้งยังคำศัพท์ฟิสิกส์ หรือชื่อเฉพาะ ในเรื่องที่อยู่ๆ ก็พูดโพล่งขึ้นมา และไม่ชี้แจงอะไรมากมาย หรือบางฉาก นักแสดงก็อยู่ในชุดปกคลุม บริเวณใบหน้า กระทั่งพวกเรา แยกไม่ออกว่า มองคนใดอยู่กันแน่ ในด้านความรู้ความเข้าใจ ต่อเรื่องราวบางเวลา นักแสดงเอง ก็รู้เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างดี
แต่ว่าโดยมาก นักแสดงหลักของ จอห์น เดวิด วอชิงตัน ก็มานะแทน สายตาผู้ชม ให้เป็นเพื่อนมึนงง กับสิ่งที่พบเจอ ถึงบางเวลา พวกเราจะรู้สึก ราวกับถูกผู้แสดง! ละทิ้งเป็นช่วงๆด้วย เหมือนกัน ถ้าหากหนัง ยังเรื่อง ทำให้พวกเรา รู้สึกราวกับ นีโอ กำลังเสวนากับ คนเขียน แบบใน The Matrix ทั้งสอง ใฝ่สูง
พวกเขา คู่นี้ก็คือ นีโอ เจรจากับ คำพยากรณ์ โน่นล่ะ ก็เลยเป็นทั้ง คุณลักษณะเด่น ที่เรื่องขับด้วยปัญหา ที่พวกเราจำต้องให้สมาธิ สำหรับเพื่อการ เก็บข้อมูลตลอดระยะเวลา พอใจภาพเบื้องหน้า ตลอดระยะเวลา แล้วก็เปลี่ยนเป็น ข้อเสียว่า พวกเราแทบจะไม่อิน หรือเอาใจใส่ ความเป็นไป ของผู้แสดงใดนัก ข่าวหนัง มาร์เวล
เนื่องจาก นักแสดงก็มิได้ ตั้งใจผู้ชมแบบเดียวกัน ยังไม่ถือว่า จังหวะการคลายอารมณ์ ที่น้อยไปหน่อย ความลื่นไถลไหล สำหรับใน การเล่าสร้าง ความรู้ความเข้าใจนั้น ก็เข้าขั้น ตะปุ่มตะป่ำ! กระโจนสายตา อยู่บ่อยครั้ง หลายฉากมองเห็น ความเพียรพยายาม ดื้อด้านไปต่อ ไม่คอยแล้วนะ ของผู้กำกับ กระทั่งพวกเรา ก็รู้สึกช่างมันเถอะ ละกันกับไอ้ฉากนี้ๆ ไม่รู้เรื่องก็ได้