เชิดชูนักดับเพลิง เชอร์โนบิล1986 เน็ตฟลิกซ์รีวิว หนังยกย่องความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรวมทั้งอาสาสมัครที่เชอร์โนบิล
เชิดชูนักดับเพลิง แต่ว่าไม่เอ่ยถึงความรับผิดชอบและก็ข้อผิดพลาดของรัฐบาลระบอบคอมมิวนิสต์ มีความเป็นหนังโฆษณาชวนเชื่อ + โรมานซ์ มากยิ่งกว่าจะเปิดเผยเรื่องปัญหาเรื่องการระเบิดรวมทั้งประเด็นอื่น ๆ
หนังประเด็นนี้สร้างโดยรัสเซีย มีแนวทางการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนกับ มินิซีรีส์ เชอร์โนบิลของเอชบีโอ อย่างฟ้ากับเหว ซึ่งประเด็นนี้จะซ่อนเร้นการโฆษณาชวนเชื่อเข้ามาด้วย โดยเหตุนั้นใครกันแน่ที่มองเวอร์ชั่นของเอชบีโอ มาแล้วคาดหมายว่าจะได้มองเห็นมุมมองใหม่ ๆ หรือข้อมูลจริงอีกข้างในเหตุนั้นบางครั้งก็อาจจะผิดหวังอย่างแรง เนื่องจากมันไม่มีอะไรเลยเว้นแต่เรื่องราวน้ำเสียดราม่าของผู้แสดง
แม้กระนั้นถ้าหากผู้ใดต้องการลิ้มรสหนังรัสเซีย ตัวหนังมีความยาว 2.15 นาที เข้าฉายที่รัสเซียแล้ว เน็ตฟลิกซ์ซื้อเข้ามาฉายในตรีม สามารถมองได้เลย ที่ผ่านมาในปี 2019 ทางช่องเอชบีโอ ได้ฉายมินิซีรีส์เรื่อง เชอร์โนบิลความยาวเพียงแค่ 5 ตอนสุดท้าย ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการปะทุของโรงไฟฟ้าพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ “เชอร์โนบิล”
ซึ่งเป็นสถานะการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นจริงในปี ค.ศ. 1986 ในช่วงที่รัสเซียยังเป็น สหภาพโซเวียต รวมทั้งสงครามเย็นกับประเทศสหรัฐอเมริกากำลังขึ้นถึงจุดสุดยอดก่อนจะถึงเวลาเลิกลง โดยที่หลายข้างคิดว่า สถานะการณ์ระเบิดที่เชอร์โนบิลเป็นชนวนรีบสำหรับเพื่อการแตกสลายของรัสเซีย ซึ่งเป็นการจบของสงครามเย็นระหว่างสองชาติมหาอำนาจที่ได้ดำเนินมานานกว่า 4 ทศวรรษให้จบลง ข่าวหนัง มาร์เวล
ตัวหนังจะบอกผ่านมุมมองของ อเล็กเซ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงชายหนุ่มที่ได้กลับมาพบกับแฟนเก่าเป็น โอลยา ซึ่งเขาได้พบว่าคุณมีลูกที่เกิดมาจากเขาแต่ว่ามิได้บอกมายาวนานหลายปี โน่นทำให้อเล็กเซคิดที่จะแก้ตัวแล้วขอดำเนินชีวิตดูแลคุณรวมทั้งลูก แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงงานปรมาณูที่เชอร์โนบิล
โดยที่ลูกชายของพวกเขามองเห็นสถานะการณ์ระเบิดรวมทั้งได้รับผลพวงจากกัมมันตภาพรังสี ในช่วงเวลาที่กรุ๊ปพนักงานดับเพลิงที่เป็นเหล่าเพื่อนของเขาก็จำต้องไปทำภารกิจเสี่ยงตายจากคำบัญชาของรัฐบาลที่จะต้องรวมกำลังคนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งสิ้นยั้งไม่ให้การระเบิดมันมีผลเสียไปทั่วราชอาณาจักรและไม่ให้ไปถึงทวีปยุโรป ซึ่งเขาก็ได้ตกลงใจร่วมภารกิจที่มีตั๋วเพียงแค่ใบเดียวสำหรับการไปแค่นั้น
เชิดชูนักดับเพลิง หนังอีกเวอร์ชั่นหนึ่งของเชอร์โนบิลที่ตอนนี้สร้างโดยรัสเซียแท้ ๆ
เข้าฉายในโรงหนังมาก่อน แล้วทาง เน็ตฟลิกซ์ก็เลยซื้อเข้ามาฉายต่อ โปรดักชั่นงานสร้างเรียกว่าออกจะดีอย่างยิ่งจริง ๆ แม้กระนั้นนั่นน่าจะเป็นจุดเด่นเพียงแต่ไม่กี่อย่างของหนังประเด็นนี้ สำหรับเเรื่องการะเบิดที่เชอร์โนบิล เป็นการสะท้อนภาวะของบริบทด้านสังคมหลายชนิดในสมัยนั้น
ทั้งยังความผิดพลาดของระบบการปกครองแบบสังคมนิยม การรวมอำนาจเอาไว้ที่ศูนย์กลางโดยไม่มีระบบตรวจตรารวมทั้งถ่วงดุลที่ดี แล้วยังสะท้อนลักษณะร่วมบางสิ่งทางด้านสังคมของรัสเซียแล้วก็ชาติที่ดูแลด้วยสังคมนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ โน่นเป็นการไม่พูดเรื่องจริง การปิดบังข้อมูล การอวยหัวหน้า การห้ามคิดต่าง แม้กระทั่งเป็นสิ่งที่ถูกสมควรกว่า หรือเกิดเรื่องที่เกี่ยวโยงกับชีวิตคนกลุ่มมากมาย
แต่ว่าคุณไม่สามารถที่จะทำหรือบอกในสิ่งที่ขัดกับหัวหน้าหรือผู้ดูแลของรัฐบาลระบอบคอมมิวนิสต์ เพราะเหตุว่าถ้าหากทำแบบนั้นคุณจะถูกสบประมาทว่าเป็นพวกขายบ้านขายเมือง จะต้องถูกจู่โจม ถูกลงโทษ ขับไล่ หรือรุนแรงที่สุดเป็นถูกยิงเป้า จุดบกพร่องที่สุดของหนังหัวข้อนี้ก็คือ การที่หนังอย่างกับอยากได้หลีกเลี่ยงที่จะไม่เสนอในส่วนของ “ความรับผิดชอบของรัฐบาลรัสเซียในยุคนั้น” โลกเก่าคลาสสิก
แต่ว่าไปเล่าผ่านมุมมองของพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับดับเพลิง รวมทั้งพรีเซนเทชั่นเรื่องราวแบบ ชมเชยความกล้าหาญของพนักงานที่มีหน้าที่ดับเพลิงแล้วก็ข้าราชการสมัครใจซึ่งจะต้องยอมเสี่ยงอันตรายไปทำภารกิจสำหรับเพื่อการยั้งไม่ให้เหตุระเบิดของโรงงานหนักไปกว่านั้น ซึ่งภารกิจกลุ่มนี้นับว่าเป็นแบบตั๋วท่องเที่ยวเดียว เป็นอย่างไรคนไปก็จำเป็นต้องสละชีวิต ช่องทางตายแบบจะแน่ ๆ ทั้งกลุ่มชนที่จะต้องทำภารกิจพวกนี้ก็จึงควรเสี่ยงกับการแปดเปื้อนจากกัมมันตภาพรังสีที่จะมีผลเสียที่มีต่อร่างกายอีกทั้งแบบรุนแรงรวมทั้งระยะยาว
แม้กระนั้นหนังก็มิได้ถึงกับอวยระบบของรัสเซียไปหมด
บางจุดในหนังเองก็มีบางไดอาล็อค ที่อยากได้จู่โจม ความล้าสมัยของระบบ การแพทย์รัสเซีย ที่ขาดหมอแล้วก็เครื่องไม้เครื่องมือที่ต้อง ตัวนำของเรื่องอย่างอเล็กเซย์ ก็ยอมทำภารกิจ เพื่อขอเปลี่ยนกับการ ที่เขาจะได้ส่งตัวลูกชายของเขา ไปรักษาตัวที่สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศ ที่มีระบบระเบียบโรงหมอ และก็อุปกรณ์ที่ดี ยิ่งกว่ามากมาย เรียกกล้วย ๆ ว่าหนังเอง ก็ทำออกมา
โดยเห็นด้วยว่ารัสเซียสมัยนั้น ล้าหลังกว่ากรุ๊ปประเทศ ในยุโรปตะวันตก ที่มิได้ดูแลด้วย ระบอบคอมมิวนิสต์ หรือการที่เจ้าหน้าที่รัฐ เสนอสิ่งแลกเปลี่ยน กระบวนการทำภารกิจ เสี่ยงตายแต่ว่ารางวัล ที่ได้ก็คือ การที่ผู้แสดงนำ และก็ครอบครัว จะได้ไปอยู่ในแฟลต ที่มอสโกว ประหนึ่งว่านี่เป็นรางวัลชั้นเลิศ แล้วที่อาสาสมัคร ผู้กล้าจะได้รับ จุดอ่อนอย่างหนัก
อีกข้อก็คือ การเล่าเรื่อง ที่ไปให้น้ำหนัก กับความดราม่า ของครอบครัวตัวนำ ความรักของชายหญิง ที่จากกันไปนาน ที่ตัวนำปรารถนา กลับมาสานสมาคมด้วย ซึ่งหนังให้แอร์ไทม์ สำหรับการเล่าราว ส่วนนี้มากจนเกินไปซะ กระทั่งนี่แทบเป็น หนังดราม่าชีวิตเป็นหลัก แล้วยังไม่นับความเด็ดเดี่ยว แบบไม่ถูกที่ผิดทาง ของผู้แสดงนำ ที่เลือกกลับไป ทำภารกิจถึงสองรอบทั้ง ๆ ที่ได้อยู่กับคู่รักแล้ว
โดยยิ่งไปกว่านั้น ในตอนครึ่งชั่วโมง ท้ายที่สุดของหนัง เสมือนเป็นการ ดำเนินเรื่องแบบที่ ไม่เคยรู้ว่าจะใส่อะไรเข้ามา ทำนองว่าปรารถนา ยกความกล้าหาญ ของผู้แสดงนำ แล้วก็หนังเสมือน อยากแออัดยัดเยียด ความเป็นมนุษย์กล้าของชาติ ที่ทุกคนในรัสเซีย ควรจะมองเป็นตัวอย่าง กล่าวได้ว่า เป็นการทำหนังที่แฝงไปด้วย โฆษณาชวนเชื่อ ด้วยการกล่าวเชิดชู ความกล้าหาญ ของผู้แสดงนำ โดยใช้หนทาง แบบโรมานซ์ และก็ความเป็นหนังรัก เข้ามาปลุกอารมณ์
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อดีตสมัยทาง ประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ก็ใช้บ่อยมาก เนื่องจากนี่เคย เป็นแถวทางของหนังฮอลลีวูด ในสมัย 80-90 ที่ถ้าคนไหนดู หนังแนวโรมานซ์+การศึก พวกเราก็ได้จะเจอกัน หลายครั้ง ในรูปภาพรวมแล้ว นี่เป็นหนังชมเชยวีรบุรุษรวมทั้งชาตินิยมรัสเซียโดยการเอาเรื่องที่เชอร์โนบิลมาเป็นเบื้องหลัง ซึ่งเอาเข้าจริงหนังก็มิได้เสนออะไรที่เกี่ยวพันกับปัญหาของโรงงานปรมาณูที่เชอร์โนบิลรวมทั้งสิ่งที่ทำให้เกิดการปะทุอะไรเลย
แล้วหนังก็มิได้ปรารถนาจู่โจมความไม่ประสบผลสำเร็จของรัสเซียจากสมัยสมัยก่อน แถมยังมีการพรีเซ็นท์ภาพสังคมรัสเซียในยุคนั้นที่บางครั้งอาจจะมองผิดตาสุด ๆ เสมอเหมือนตัวหนังอยากได้ล้างภาพความเคร่งขรึมของสังคมรัสเซียในยุคนั้นออกไปแล้วเสนอว่านี่เป็นประเทศที่น่าอยู่กว่าที่หลาย ๆ คนรับทราบซะแบบงั้น ด้วยเหตุนี้หากคนไหนกันแน่ที่เคยมองมินิซีรีส์เชอร์โนบิลของเอชบีโอ แล้วมุ่งมาดจะได้มองอะไรที่สุดยอดแบบงั้น คงจะจะต้องแสดงความเศร้าใจด้วย