เจอกับอะไรที่เหนือกว่า ทิ้งช่วงให้คอยกันนานถึง 7 ปี สำหรับภาคต่อของเดอะครู้ดส์ แอนิเมชั่นจากค่ายดรีมเวิร์ค
เจอกับอะไรที่เหนือกว่า ผู้ครอบครองผลงานดัง ๆ อย่าง เชร็ค , กังฟูแพนด้า , มาดากัสการ์ และ อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ซึ่งภาคแรกก็สามารถทำเงินทั้งโลกไปเฉียด ๆ 600 ล้านเหรียญฯ และกระแสเชิดชูจากผู้ชมว่าหนังขึ้นแท่นเบิกบานล้นหลาม จนถึงหลายคนรอว่าขณะใดเหล่าบรรดาครอบครัวมนุษย์ถ้ำจะกลับมาปั่นป่วนบนจอเสียท่า ท้ายที่สุดท่ามกลางโควิด-19 ที่ยังคงระบาดหนัก
ยูนิเวอร์แซลก็ไม่แคร์ปล่อยภาคใหม่ของเดอะครู้ดส์ออกฉาย (เนื่องจากชั่วครู่หนึ่งก็ไปปัดกวาดเงินจาก วีดีโอตามคำร้องขอ ได้ต่อแบบ โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์ เมื่อตรงกลางปี) โดยภาคนี้ยังคงได้นักแสดงแถวหน้าของวงการอย่าง นิโคลาส เคจ, เอ็มม่า สโตน รวมถึงไรอัน เรย์โนลด์ กลับมานำเสนอเสียงดังเช่นเดิม ในภาคใหม่นี้ ยังคงเล่าถึงครอบครัวมนุษย์ถ้ำอย่างเครือญาติครู้ดส์ ที่ในภาคแรกออกมาจากถ้ำมาเผชิญโลกกว้าง
ส่วนในภาคนี้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องเจอกับอะไรที่เหนือกว่า เมื่อครู้ดส์เริ่มเดินทางจนถึงมาเจอดินแดนที่สมบูรณ์บริบูรณ์ ปรากฏว่าสถานที่ที่นี้ เป็นของครอบครัวมนุษย์ที่มีอารยธรรมมากกว่าอย่าง “เบทเทอร์แมน” ทำให้เหล่าครู้ดส์ เริ่มถูกเทียบเคียงว่าเป็นกลุ่มชนด้านหลังเขา เป็นมนุษย์ถ้ำที่ยังไม่ปรับแก้ แม้กระนั้นปัญหาที่มากยิ่งนอกจากนั้น
เมื่อพวกครู้ดส์ได้พบว่า กาย (นำเสนอเสียงโดย ไรอัน เรย์โนลด์) เคยอยู่ในสถานที่ที่นี้มาก่อน และจากนั้นก็เหล่าครอบครัวที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วต้องการที่จะให้กายแต่งงานกับลูกสาวของเขา ซึ่งในเวลานี้กายยังคงติดใจกับ อีฟ (อธิบายเสียงโดย เอ็มม่า สโตน) ลูกสาวสุดอดทนของเหล่าครู้ดส์ แล้วเรื่องราวยุ่ง ๆ นี้จะไปจบลงที่ไหน คงจำเป็นที่จะต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนต์ ข่าวหนัง มาร์เวล
หากแม้มองย้อนกลับไป เดอะครู้ดส์ภาคแรกเป็นหนังที่ควรเป็นที่นิยมกว่านี้ล้นหลาม ๆ เมื่อเทียบระดับความสนุกกับแอนิเมชั่นของดรีมเวิร์คหลาย ๆ เรื่อง แม้กระนั้นอาจจะเพราะเหตุว่าผู้แสดงที่เป็นมนุษย์ถ้ำ ไม่ได้มีความน่าจำพอกับสัตว์หรือศิลปินแปลก ๆ ของค่าย พวกเราเลยรอนานกว่าปกติพื้นที่ค่ายจะเข็นภาคต่อออกมา (เนื่องจากของเด็กเล่นก็ขายดีไม่เท่าเรื่องอื่น) ซึ่งตอนหลังมองดูจบ
สามารถมองดูได้เต็มปากว่า ระดับความร่าเริงของเดอะครู้ดส์:ตะลุยโลกใบใหม่ ไม่ได้ลดลงจากภาคแรกเลย ทั้งในทางของความขำขันแล้วหลังจากนั้นก็ความมันส์ของฉากการเสี่ยงภัย ที่หลายเสียงเห็นตรงกัน เป็นเสียงหัวเราะที่ได้จากหนังหัวข้อนี้ที่มาแบบ เที่ยวบินระทึก ยึดเหนือฟ้า ตลอด 90 นาทีของหนัง ผู้สร้างแทบจะไม่ปล่อยจังหวะไหนที่จะไม่เล่นมุกเลย
สามารถขยี้ได้เกือบทุกฉาก บางฉากที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรก็จะมาเซอร์ไพรศรีสสร้างความฮาได้อีก เรื่องว่าเป็นหนังที่ร่าเริงได้อย่างแท้จริง สิ่งที่จะจำเป็นต้องปรบมือให้เกิดความสวยงาม ๆ สำหรับผู้สร้างเดอะครู้ดส์:ตะลุยโลกใบใหม่ เป็นความสร้างสรรค์ที่อัดแน่นในหนัง ทำให้รายละเอียดของฉากต่าง ๆ เต็มไปด้วยอะไรที่แปลกรวมทั้งน่าจำ สามารถประสานสิ่งทันสมัยในช่วงปัจจุบันเข้าไปในครั้งพระเจ้าเหาในหนัง
โดยเฉพาะฉากบ้านของผู้คนที่แก้ไขแล้ว เราจะได้เห็นอะไรเก๋ ๆ จำนวนมาก อาทิเช่น ลิฟต์แบบยุคหิน, ส้วมแบบยุคหิน รวมทั้งฉากสวนรวมถึงฉากในป่า ที่เต็มไปด้วยผักผลไม้ที่เล่นกับงานครีเอทีฟ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่ผสมเอาสัตว์หลาย ๆ พวกเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งแปลกประหลาด อีกทั้งฮา รวมทั้งสนุกสนานไปด้วยการดูอย่างมาก ทั้งปวงนี้ทำให้ เดอะครู้ดส์เป็นแอนิเมชั่นที่แปลกใหม่และน่าจำอยู่ไม่น้อย ในด้านของรายละเอียดของฉาก
เจอกับอะไรที่เหนือกว่า เดอะครู้ดส์ 2 ตะลุยโลกใบใหม่ – รักโลกาภิวัฒน์
ย้อนไปปี 2013 ค่ายแอนิเมชันอย่าง ดรีมเวิกส์แอนิเมชัน ได้ปล่อยผลงานอย่าง เดอะครู้ดส์แอนิเมชันมือจับไอเดียการสร้างค้างแรกเตอร์ของมนุษย์สมัยพระเจ้าเหามาเล่าในมุมมองของครอบครัวที่ตลอดชาติรู้จักแต่กับการอยู่ในถ้ำจนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ถ้ำจนกว่าได้พบการเปลี่ยนแปลงด้านหลังคนที่ไม่รู้จักก้าวเข้ามาในครอบครัวของเขาและก็โลกที่กำลังเกิดปรากฎการณ์แผ่นดินแยกตัว
ถึงแม้หนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จระดับปรากฎการณ์แต่ด้วยคุณงามความดีของหนังก็ทำให้มันมีภาคต่อออกมาในวันนี้ ด้านหลังฝ่าอุปสรรคทั้งโลกแยกและรักแรกพบของบุตรหญิงครอบครัวครู้ดส์แต่ก่อนชาวถ้ำก็ได้เวลาเริ่มเดินทางไปตามหาดินแดนที่วันพรุ่งนี้จนได้พบกับเผ่าเบตเทอร์แมนที่มี โฮป (เล่าโดย เลสลี มานน์) คุณแม่หัวสูง ฟิล (ชี้แจงโดย ปีเตอร์ ดิงก์เลดจ์) แล้วก็ดอว์น (ชี้แจงโดยเคลลี มารี ทราน)
ซึ่งถึงแม้ข้างนอกจะมองดูเป็นเจ้าของบ้านที่พักครอบครัวครู้ดส์อย่างดีเยี่ยมถึงแม้ว่าความจริงพวกเขาหวังจับคู่ กาย (ชี้แจงโดย ไรอัน เรย์โนลด์) หวานใจของอีฟ (เอ็มมา สโตน) แล้วก็ในตอนที่พวกเขากำลังหลงระเริงกับบ้านช่องภัยร้ายจากนอกกำแพงก็กำลังคืบคลานมาสู่พวกเขาอีกทั้ง 2 ครอบครัว สำหรับหนังภาคนี้มีการสลับตัวคณะทำงานควบคุมรวมถึงเขียนบทใหม่โดย คริส แซนเดอร์ส์ และก็ เคิร์ก โดมิกโก ผู้กำกับที่ปั้นหนังภาคแรกมาอยู่กรุ๊ปโปรดิวเซอร์แล้วก็ให้ไอเดียของเรื่องราว อลังการสมราคา
และสำหรับหนังภายใต้การดูแลของโจเอล คคอยว์ฟอร์ดที่มาเริ่มแอนิเมชันปริมาณยาวครั้งแรกก็ทำให้สเกลงานของ เดอะครู้ดส์คราวนี้ดูใหญ่มโหฬารขึ้นแล้วก็มีความมากมายหลายตามผลงานของเขาที่ผ่านแอนิเมชันหลากแนวหลายค่ายล้นหลาม ๆ ทำให้หลายฉากการเสี่ยงภัยของหนังดูน่าตื่นเต้นและก็เต็มไปด้วยสีสันผิดตาซึ่งที่ตรงนี้จัดว่าคคอยว์ฟอร์ดมารับหน้าที่ดูแลหนังภาคต่อหัวข้อนี้ได้อย่างไม่อายรวมถึงการดำเนินเรื่องก็ลื่นไหลรื้นเริงทีเดียว
ต้องชอบใจกรุ๊ปบทใหม่ของหนังที่ยังคงส่วนสำคัญของเรื่องราวได้
โดยเฉพาะการถักต่อหลักสำคัญความหวงลูกของกรั๊ก (นิโคลาส เคจ)และหน้าที่ผู้นำครอบครัวที่เปรียบเสมือนแบกโลกทั้งใบตลอดเวลาแล้วก็ยิ่งบทหนังพานักแสดงไปรู้จักกับเชื้อสายใหม่ที่แม้ว่าจะชื่อ รวมทั้งดูท่าว่าจะ “ดียิ่งกว่า” ในสายตาครอบครัวของเขาก็ยิ่งตอกย้ำแผลในใจที่เสมอเหมือนตัวเองถูกลดสาระสำคัญในฐานะพ่อและจากนั้นก็ผู้นำครอบครัวลงไปชี้ให้เห็นว่ากรุ๊ปบทยังคงให้ความเอาใจใส่กับข้อความสำคัญครอบครัวที่สืบต่อจากภาคแรกแล้วหลังจากนั้นก็ให้แง่คิดที่ดีสำหรับเพื่อการอยู่ร่วมกันในครอบครัวเจริญเยอะแยะ
อีกความดีของบทหนังเป็นการเปิดประเด็นใหม่ ๆ อย่างการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ต่างเชื้อสายที่โอกาสนี้ มนุษย์ถ้ำดินแดนดุร้าย ๆ จำเป็นต้องมาปะทะทางวัฒนธรรมกับเผ่าเบตเทอร์แมนที่เป็นมนุษย์ที่เริ่มมีความก้าวหน้าสำหรับเพื่อการผลิตเครื่องมือทุ่นแรงรวมทั้งการคิดระบบชลประทานทำการเพาะปลูกเพื่อดำเนินชีวิตที่นอกเหนือจากที่จะให้ความรู้ความเข้าใจทางมานุษยวิทยาอย่างอ้อม ๆ แล้วยังเปิดประเด็นการบ้านการเรือนการแย่งชิงพื้นที่ในโลกยุคสมัยใหม่ได้อย่างน่าพิจารณา
และจากนั้นก็หลายฉากหลายช่วงเวลาที่แม้ว่าจะเป็นแอนิเมชันก็อดทำเราสะอึกไปกับการดูถูกดูแคลนเชื้อสายที่เหมือนเป็นบทเรียนแรกในการสอนเยาวชนเรื่องความเสมอภาคให้เห็นภาพรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง และแม้เราจะมองบทภาพยนตร์จนกระทั่งเหมือนกับหนังจะออกมาเครียดแต่ความเป็นจริงแล้ว เดอะครู้ดส์ตะลุยโลกใบใหม่ แปลงเป็นแอนิเมชั่นขายความบันเทิงที่มอบเสียงหัวเราะได้อย่างไร้สาระจำนวนมาก ๆ
อีกทั้งจากเสียงอธิบายของศิลปินจากภาคแรกผสมกับตัวละครใหม่รวมถึงยังมีคาแรกเตอร์งาม ๆ มากทั้งตัวเบลต์จากภาคแรกที่คราวนี้ได้เจอเบลต์สาว หรือจะเป็นหมาป่าแมงมุมที่ไม่เหลือความน่าสยดสยองอะไรก็ตามรวมทั้งเซอร์ไพร์สข้างหลังเรื่องกับเหล่ากรุ๊ปสาวสลาตันที่ทำเอาผู้ชมหัวเราะไม่ได้หยุดหย่อนยานอย่างยิ่งจริง ๆ แถมยังคงมีมุกรวมทั้งองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ประดิษฐ์เยอะแยะ รวมถึงที่สำคัญยังคงแทรกสอดด้วยแง่คิดดี ๆ มากมาย รวมทั้งฟีลความอบอุ่นตามสไตล์หนังครอบครัว เป็นอีกหนึ่งผลงานที่