หนังของมหาเทพ “ผมสนใจเรื่องความฝันมาเนิ่นนานแล้ว…ผมอยากทำหนังเกี่ยวกับความฝัน” หนังของมหาเทพ

หนังของมหาเทพ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้บอก “ตอนแรกผมจะทำเป็นหนังสยองขวัญ แต่แล้วในที่สุดมันก็กลายมาเป็นอย่างที่เห็น ผมเฝ้าค้นกาวิธีที่จะเอา “ความฝัน” มาเป็นหัวใจของเรื่องราว แล้วแนวคิดที่ว่า ถ้าเกิดใครคนหนึ่งสามารถรุกล้ำความฝันของเราแล้วขโมยความคิดไปจากเราได้ล่ะ?”

16 กรกฎาคมเมื่อ 10 ปีก่อน คือวันที่หนังไซไฟแอ็กชั่นแนวจารกรรมเรื่อง จิตพิฆาตโลก (2010) เข้าฉายเป็นวันแรก โดยวันนี้เป็นวันที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของโลกภาพยนตร์ดั่งเช่นในยุคก่อน ที่หนังตัวอย่างแทบจะไม่บอกอะไร และคนดูจะรับรู้เรื่องราวของหนังยังสดใหม่ครั้งแรกเมื่อได้ชมภาพยนตร์

ด้วยเพราะเป็นหนังของ โนแลน ที่ดึงดูดคนดูได้ตั้งแต่ชื่อผู้กำกับ นักแสดงนำหลายคนล้วนมีชื่อเสียง ทั้ง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ, ทอม ฮาร์ดี, โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์, นางเอกออสการ์ มารียง กอตียาร์, ไมเคิล เคน, เคน วาตานาเบะ และ เอลเลน เพจ หนังของมหาเทพ

และความที่ วอร์เนอร์บราเธอส์ กล้าลงทุนกับหนังถึง 160 ล้านเหรียญฯ (จริง ๆ แล้ว โนแลน ได้ทุนสร้างมากกว่านี้ แต่เก่งจึงจบงบที่ 160…ที่เหลือคืนค่ายไป!) ทั้งที่ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่คนดูก็พร้อมแห่เข้าไปดูหนังชนิดที่ยังไม่รู้ว่า จะได้ดูหนังแนวอะไร เนื้อเรื่องคร่าว ๆ เป็นมายังไง

กว่าจะสร้างหนัง จิตพิฆาตโลก ผมต้องจูงใจและทำให้คนกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มนึงเชื่อเหมือนกันกับผม หลัก ๆ คือให้ทุกคนอ่านบท และที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผมต้องตอบทุกคำถามของพวกเขา (ผู้บริหารสตูดิโอ) ยังอยากเล่นบทนี้

อย่างถ้าทำเสร็จแล้วหนังจะออกมาหน้าตาประมาณไหน ที่สำคัญคืออคนดูจะอินตามเรื่องราวที่เข้าใจยากแบบนี้ด้วยจริง ๆ ใช่มั้ย…แน่นอน ทุกคนที่ได้อ่านบทแล้วก็กังวลกันทั้งนั้น” โนแลน กล่าว หนังของมหาเทพ

จิตพิฆาตโลก คือโปรเจกต์ในฝันของ ที่อยากจะทำมา ตั้งแต่ หนังเรื่องแรก ๆ แต่เขาก็รู้ว่า ในตอนนั้น บารมีของเขา ยังมีไม่มากพอ จะขอทุนสร้างระดับ 160 ล้านเหรียญฯ จากค่ายหนัง หลังจากเสร็จ อินซอมเนีย (2002) เขาเริ่มเขียนโครงเรื่องของหนัง ความยาว 80 หน้าเกี่ยวกับจอมโจรขโมยฝัน เอมมา โทมัส ภรรยาของโนแลนและนั่งแท่นโปรดิวเซอร์หนังทุกเรื่องของเขายังไม่ค่อยมั่นใจในตอนได้อ่านโครงเรื่องว่า

สามีของเธอจะขายโปรเจกต์ผ่าน

และเมื่อเขาได้ผ่านการทำหนังอย่าง ศึกมายากลหยุดโลก (2006) ที่ขายการเล่าเรื่องนักเล่นกลได้อย่างหักมุมซับซ้อน และหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์อย่าง แบทแมน อัศวินรัตติกาล (2008) แล้ว เขาก็กลับมาจับสิ่งที่เขาใฝ่ถึงความฝันเสียที ข่าวหนัง มาร์เวล

• “ถึงอย่างนั้น บทมันก็ยังแห้งและเฉยชามาก” อธิบายถึง บทร่างแรกของหนัง “ผมใช้เวลาคิดอยู่ 10 ปีว่าจะทำให้ หนังไม่แห้งแล้ง ทางความรู้สึกได้ยังไง จนพบว่า ความฝันของมนุษย์ ต้องมีเดิมพัน ทางด้านความรู้สึก ผมจึงเชื่อมโยง มิติด้านอารมณ์ ของหนังไว้ ที่ตัวละครเอก ให้คนดูติดตามเอาใจช่วยเขาว่าเขาจะได้กลับบ้านไปเจอหน้าลูก ๆ ไหม นั่นแหละคือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้ผมเขียนบทจนสำเร็จ”
• ผมต้องอ่านบทอยู่สองสามรอบ จนมาเข้าใจจริง ๆ ก็ตอนได้นั่งลงคุยกับ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ นักแสดงที่รับบท คอป บอก เขาคือตัวเลือกหนึ่งเดียวของ มาตั้งแต่แรก และนักแสดงทุกคน ที่จะมารับบทอื่น นอกจาก จะถูกทดสอบบท ของตัวเองแล้ว ก็ยังจะต้องถูกทดสอบความเข้ากันได้กับ ลีโอนาร์โด ด้วย

ถ่ายทำหนังใน 6 ประเทศทั่วโลก (ย้อนรอยทุบสถิติ เดินทางถ่าย ทำทั่วโลกกับหนัง ทฤษฎี ที่ 7 ประเทศ) ได้แก่ ฝรั่งเศส, แคนาดา, ญี่ปุ่น, โมร็อคโค, อังกฤษ และสหรัฐฯ ทั้งลุยขึ้นเทือกเขาหิมะ (ทอม ฮาร์ดี ต้องไปหัดเล่น สกีเพราะต้องมาถ่ายฉากนี้)

แทรกไปในความจอแจ ของเมืองใหญ่ ซึ่ง บอกชัดเลยว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนัง เจมส์ บอนด์ ตอนที่เขาชอบที่สุดอย่าง 007 ยอดพยัคฆ์ราชินี (1969) (แต่คนดู ให้การตอบรับน้อยที่สุด จนต้องเปลี่ยน นักแสดง จอร์จ เลเซนบี) รวมถึงการประดิษฐ์ฉาก ขึ้นในโรงถ่าย

และตามสไตล์ผู้กำกับหนังแบบ โอลด์สคูลฮิปฮอป ที่ต้องคุมถ่ายเองทุกซีน นอกจากนั้น เขายังถ่ายหนัง ด้วยสถานที่จริง มากที่สุด อย่างแทบจะไม่พึ่ง ซีจี เลย ดังนั้น ฉากห้องโรงแรม ที่ยกพื้นขึ้น ให้เอียง 25 องศา ซึ่งนักแสดงและ ทีมงานก็ต้อง เอียงถามตอนถ่ายทำ กันไปด้วย

หรือฉากโถงทางเดินหมุน 360 องศา ที่เห็นจึง เป็นฉากที่ ถูกสร้างขึ้นมาจริง ๆ (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ต้องซ้อมแสดงฉาก เดินไปมาใน ฉากหมุนนั้น ฉากเดียวอยู่ 2 สัปดาห์ ก่อนแสดงจริง) หรือฉากรถไฟ ที่ชนแหวกแถว รถยนต์บน ท้องถนนนั้น ก็ใช้รถไฟจริง ๆ มาถ่าย