มาดูกลยุทธ์ การสร้างหนึ่งในจักรวาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง Marvel Cinematic Universe
มาดูกลยุทธ์ เควิน ไฟกี อดีตโปรดิวเซอร์ลูกหม้อของมาร์เวล- ได้ขึ้นมาคุมบังเหียน Marvel Studios -บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ยุค 90 เพื่อลงทุนสร้างภาพยนตร์ด้วยตัวเอง ในปี 2007 นั้น มาร์เวลก็ได้พลิกสถานการณ์อันย่ำแย่จากหลังมือเป็นหน้ามือโดยทันที จนกลายมาเป็นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงที่มีรายได้ราว 400,000 ล้านบาทในปี 2018
- มาดูกลยุทธ์ กล้าให้แฟนๆ รู้สึกผูกพัน ด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่มี ‘ความเป็นมนุษย์’
“ผมไม่ได้ มีสูตรสำเร็จตายตัว สำหรับการสร้างฮีโร่ เหล่านี้เลยนะ สิ่งสำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ว่า จะต้องสร้าง ‘ฮีโร่แบบไหน’ ออกมา แต่ผมแค่คิดว่าเราจะสร้าง ‘เรื่องราวแบบไหน’ จากตัวฮีโร่มากกว่า ซึ่งมันคือการเลือกสร้างในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนน่ะครับ” สแตน ลี อดีตบรรณาธิการผู้ล่วงลับของ Marvel Comics ผู้สร้างเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ในจักรวาลมาร์เวลสามารถอธิบายถึง ‘หัวใจสำคัญ’ ของเรื่องเล่าแบบมาร์เวล
แรกเริ่มนั้น ซูเปอร์ฮีโร่มักถูกจำในฐานะมนุษย์ผู้มีพลังดีเลิศที่มาพร้อมทั้งความสมบูรณ์แบบในชีวิต พวกเขามักมีชีวิตที่บริบูรณ์พร้อมรวมทั้งผู้คนโดยมากต่างก็รักใคร่พวกเขา ทว่าสูตรในการสร้างซูเปอร์วีรบุรุษในรูปแบบนี้กลับไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ลีติดใจนัก เขาก็เลยเลือกสร้าง ‘ฮีโร่ที่มีปัญหารวมทั้งการขัดกันในชีวิต-ไม่ต่างจากมนุษย์ปกติทั่วๆไป’ ขึ้นมาแทน
ตัวอย่างเช่น ผู้แสดง Hulk ใน Avengers: Age of Ultron (2015, วีดอน) เป็นยักษ์ ที่มาพร้อมกับ พลังล้างผลาญมหาศาล แต่กลับคุมสติ ของตัวเอง เกือบจะมิได้นั้น ถูกประชากรตราหน้าว่า จริงๆแล้ว เขาเป็น ‘ตัวทำลาย’ มากกว่าที่จะเป็น ‘ซูเปอร์วีรบุรุษ’
หรือกลุ่ม Avengers ที่เคยถูกทุกฝ่ายคิดว่าเป็น ‘ภัยรุกราม’ ด้วยเหตุว่า การปราบคนร้าย ของพวกเขานั้น มักต้องแลกเปลี่ยนมาซึ่ง ความวิบัติป่นปี้ ของบ้านเมืองในทุกครั้งไป ซึ่งดูเหมือนจะ ‘ได้ไม่คุ้มเสีย’ เอาเลยในมุมมอง ของสามัญชน ฯลฯ เป็นปลื้มอย่างมาก
ความบกพร่อง และก็ข้อผิดพลาดของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล ก็เลยกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญ-ทั้งยังในเชิงการเล่าเรื่อง รวมทั้ง การตลาด-ที่ช่วยทำให้บรรดาผู้ชมได้เข้าใจและก็เข้าถึงความเป็น ‘มนุษย์ปกติ’ ราวกับเดียวกับพวกเขามากขึ้นครั้งละนิด จากหนังแต่ละเรื่อง จนถึงขั้น รู้สึกเชื่อมโยง กับอารมณ์ความรู้สึกสูญเสีย/ขาดพร่อง และปัญหาน้อยใหญ่ที่พวกเขาจะต้องพบเจอในชีวิตได้ ซึ่งโน่นก็ทำให้พวกเขาเปลี่ยนเป็นผู้แสดงที่ผู้ชมรู้สึกผูกพันด้วยสุดท้าย
- กล้าให้แฟนๆ รู้สึกผูกพัน(ขึ้นไปอีกขั้น) ด้วยนักแสดงที่มี ‘ความเป็นตัวละคร’
นอกจาก การสร้างซูเปอร์ฮีโร่ ที่ความเป็นคนแล้วนั้น การเลือก ‘นักแสดงที่เหมาะสม กับบทบาท’ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์สำคัญ ของมาร์เวล ด้วยเหมือนกัน อาทิเช่น ใน Spider-Man: Homecoming (2017, จอน วัตต์ส) ที่เรามิได้เห็นเพียงแค่ ‘ไอ้แมงมุม’ ชุดแดงออกต่อกรกับผู้ร้าย แม้กระนั้น เรายังได้รู้จะกับ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เด็กวัยรุ่นที่อยู่ภายใต้ หน้ากากแมงมุม รวมทั้ง นิสัยส่วนตัว ครอบครัว ความรัก และก็ความรู้สึกที่เขามีต่อการทำหน้าที่ซูเปอร์ฮีโร่อีกด้วย
ดังนั้น โจทย์ของมาร์เวล จึงไม่ใช่ การผลิตซูเปอร์ฮีโร่ แม้กระนั้น เป็นการผลิต ‘มนุษย์ธรรมดา ที่จำเป็น ต้องเปลี่ยนมาเป็น ซูเปอร์ฮีโร่’ ต่างหาก โดยผ่านส่วนสำคัญอย่างการใช้ผู้แสดงซึ่งสามารถเข้าถึงนักแสดงได้จนกระทั่งกลมกลืน!
อันดับแรกสุดเป็น พวกเขาควรต้องคัดเลือกนักแสดงที่ ‘ดูเหมาะสม’ กับบทบาท โดยเน้นไปที่การคัดสรรผู้แสดงจากบุคลิกส่วนตัวที่ใส่รับกับนักแสดงอยู่แล้ว เช่น การเลือก ทอม ฮอลแลนด์ นักแสดงชายหนุ่มสุดโก๊ะมารับบทปาร์คเกอร์/ไอ้แมงมุมที่เป็นวัยรุ่นเลือดร้อน นิสัยบุ่มบ่าม ชอบทำอะไรตามสัญชาติญาณ หรือการเลือก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ มาเป็น Iron Man ที่มีลักษณะของความฉลาดเฉลียวเปี่ยมความเฉลียวฉลาดแม้กระนั้นก็กวนบาทาไม่มีความแตกต่างกัน
รวมทั้งยังรวมทั้งการที่มาร์เวลมักเลือกใช้บริการดาราหนังที่ยังมิได้โด่งดังเท่าไหร่-เพื่อที่ผู้ชมจะไม่ติด ‘ภาพจำ’ มาจากบทดังๆก่อนหน้าเหมือนดาราที่ดังแล้ว-อย่างดาวนีย์ จูเนียร์ คนที่ก่อนที่จะมารับบท Iron Man นั้น ยังมีสถานะเป็น ‘นักแสดงดาวร่วง’ ที่กำลังถูกลืม เช่นเดียวกับ คริส อีแวนส์ รวมทั้ง คริส เฮมส์เวิร์ธ คนรับบทกัปตันอเมริกาแล้วก็ ธอร์ ที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีสาวกรี๊ดมากเท่าทุกวันนี้
เมื่อได้นักแสดงที่ตรงกับคาแร็กเตอร์แล้ว พวกเขาก็เลยจับนักแสดงเซ็นสัญญาระยะยาวที่กินเวลานานถึง 10 ปี-เหมือนกับแผนการสร้างหนังชุดของ MCU โดยในสัญญายังมีการร้องขอให้ดารา ‘จำเป็นต้อง’ มาร่วมโปรโมตหนังทุกเรื่องของค่ายในฐานะของนักแสดงนั้นๆด้วย
รวมทั้งยังมีกติกาเล็กๆน้อยๆเช่น การขนกองทัพนักแสดงไปเยี่ยมเยือนเหล่าคนไข้ตามโรงพยาบาลในฐานะ ‘ฮีโร่ขวัญใจ’ เพื่อสร้างขวัญแล้วก็แรงใจให้อีกต่างหาก ซึ่งก็ช่วยตอกย้ำซ้ำเติมภาพจำของความเป็น ‘ฮีโร่’ ให้แก่เหล่าดาราหนังได้เป็นอย่างดี ข่าวหนัง มาร์เวล