ประสบการณ์จริง ลิตเติ้ลบิ้กวูแมนรสชาติแห่งความอ้างว้างเรื่องย่อ

ประสบการณ์จริง ลิตเติ้ลบิ้กวูแมนเน็ตฟลิกซ์รีวิวรสชาติแห่งความอ้างว้าง หนังไต้หวันระดับรางวัล ที่ทำรายได้สูงสุดบน บ็อกซ์ออฟฟิส ของไต้หวันในปี 2020 พร้อมด้วยผู้แสดงนำฝ่าย เฉินซูฟาง ที่เอารางวัลม้าทอง สาขาดารานำหญิงดีที่สุด

ภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังมีนักแสดงโด่งดังที่รู้จักดีชาวไทยเป็น วิเวียน ซู ร่วมนำแสดงด้วย ซึ่งก็ฉายทาง เน็ตฟลิกซ์ทั่วทั้งโลกแล้ว ในวันที่ 5 เดือนกุมภาพันธ์นี้ รับชมได้เลย สำหรับเรื่องรสชาติแห่งความอ้างว้าง พูดกันว่าได้ผลงานภาพยนตร์ที่ผลิตมาจาก

ประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของผู้กำกับ โจเซฟ เฉินเจียซู ที่พรีเซ็นท์เรื่องราวในครอบครัวหนึ่งในไต้หวัน เกี่ยวกับชีวิต ความตาย การลาจาก ความเกี่ยวเนื่องด้านในครอบครัวหนึ่งที่มีความซับซ้อน รวมทั้งการปล่อยวางในชีวิต เรื่องราวของ หลินซิ่วอิน

หญิงร่างอ้วนเล็ก คนที่กำลังจะจัดงานฉองวันเกิดครบอายุ 70 ปี คุณเป็นเจ้าของร้านค้าทำแฮกึ้นที่เดิมมาจากห้องอาหารริมถนนที่ขยันหาเลี้ยงชีพรวมทั้งเลี้ยงบุตรสาวอีกทั้ง 3 คนด้วยตัวเอง เพราะเหตุว่าผัวได้แยกทางกับคุณแล้วไปอยู่กินกับเพศหญิง

อื่นยาวนานกว่า 20 ปี แต่ว่าวันหนึ่ง ผัวที่แยกจากไปแล้วกลับมาเสียชีวิตอยู่ในโรงหมอที่คนภายในสกุลหลินปฏิบัติงานอยู่ คุณก็เลยจำต้องจัดงานศพให้ผัวที่แยกทางกันไปแล้ว ขณะที่หลานสาวของคุณก็เดินทางกลับมาอยู่เป็นเพื่อน ข่าวหนัง มาร์เวล

และก็ได้เจอความลับและก็เรื่องราวมากมายก่ายกองข้างในครอบครัวที่ไม่รู้จักมาก่อน มีทั้งยังเรื่องราวของการจากลา ความสิ้นหวัง การนอกใจ การแยกทาง ไปจนกระทั่งความรักรวมทั้งความสัมพันธ์ที่คนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวมีให้กัน

ประสบการณ์จริง ลิตเติ้ลบิ้กวูแมนรีวิว

ผู้กำกับ โจเซฟ เฉินเจียซู ปั้นเรื่องนี้มาจาก ประสบการณ์จริงในชีวิต เมื่อเขาพบว่าตาของตัวเอง ที่พึ่งเสียชีวิตได้นอกใจยาย ไปมีชมรมกับสตรี บุคคลอื่นอยู่นาน เขาจำต้องเพียรพยายาม ทำความเข้าใจว่า ยายยกโทษแล้วก้าวผ่าน หัวข้อนี้ได้เช่นไรกัน

เป็นพลอตหลัก ของภาพยนตร์ไต้หวัน ระดับรางวัลหัวข้อนี้ โดยตัวหนังจะเจาะไป ที่มุมมองความนึกคิด แล้วก็ย้อนอดีต แฟลชแบ็กของ หลินซิ่วอิง หรืออาม๊า ของคนภายในครอบครัว โดยมีหลานสาว ที่เป็นเปรียบเสมือน ผู้แทนผู้ชม รอรับทราบเรื่องราวต่าง ๆ

ไปพร้อม ตัวเรื่องยังเจาะไปที่ ปัญหาชีวิตของสามสาว ลูกพี่ลูกน้องที่ถูกเลี้ยง มาในครอบครัวไต้หวัน ที่จะต้องแบกรับ ความหวังต่าง ๆ ซึ่งถึงแม้ว่าพวกคุณ บางบุคคลจะไปถึง เป้าหมายในหน้าที่ การงานอาชีพ แต่ว่าก็ดูเหมือน จะมิได้สุขสบายไปซะหมด

ภาพยนตร์เสนอ เรื่องราวได้น่าดึงดูด แม้ว่าจะเป็นพลอตง่าย ๆ ที่มองเนิบในตอนแรก ทั้งยังเรื่องราวทั้งหมด ทั้งปวงก็ดำเนินอยู่ ในระหว่างการจัดงานศพ แต่ว่าการนำเสนอ ก็แอบแฝงไปด้วย ความประณีต และวิจิตรบรรจง ลึกซึ้ง ปัญหาในเรื่อง ก็มีการเผยออกมา

เรื่อยซึ่งบางเรื่อง แม้ว่าจะเป็นเรื่อง ที่ไม่ยาก แต่ว่าก็เชิญชวน ให้น่าติดตาม ว่าโดยความเป็นจริงแล้ว นักแสดงแต่ละคร แอบซุกงำความลับ อะไรไว้บ้าง ซึ่งปัญหาด้านในครอบครัว ก็เป็นสาระสำคัญ ที่ทำให้เกิดบทเฉลย คำตอบในคราวหลัง ในหนังยังมีการวิพากษ์

ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ ทางสถาบันครอบครัว ของคนไต้หวันในสมัย 70-90 ที่ครอบครัวใหญ่ จะต้องไว้หน้า รวมทั้งเกียรติศักดิ์ของสกุล แล้วยังมีปัญหา หัวข้อการอุปถัมภ์ลูก ที่มีเยอะเกินไป กระทั่งจะต้อง ส่งบางบุคคล ไปอยู่กับเครือญาติแทน บ้านป่าเมืองเถื่อน

ซึ่งหนังก็พรีเซนเทชั่น จุดนี้ออกมา แล้วคงจะทำให้ผู้ชมชาวไต้หวันส่วนหนึ่งส่วนใดดูแล้วจุกไปเช่นเดียวกัน เนื่องจากมันเป็นการเอา การจริงของชาวไต้หวัน มาเล่ากล่าว จริง ๆ แล้วปัญหาข องผู้แสดงในประเด็นนี้ สะท้อนภาพของครอบครัว ที่พวกเราสามารถพบได้บ่อย

ไม่เฉพาะเจาะจง ว่าควรเป็นครอบครัว คนไต้หวันหรือชาวเอเชีย เพียงแค่นั้น แต่ว่าสามารถเจอ จากที่ไหนก็ได้ทั้งโลก ข้อสรุปของหนัง ก็ทำมาในแนวที่ มิได้มีคำตอบ ให้กับทุกเรื่อง เป็นการหมดเรื่องราว ในแบบที่ชีวิต ก็จะต้องก้าวเดินต่อไป มันมิได้มี แซดเอนดิ้ง และไม่ได้ แฮปปี้เอนดิ้ง ไปเสียหมด อยู่ที่ว่าพวกเรา จะปล่อยวางกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้เพียงใด

แต่ว่าจุดด้วยของหัวข้อนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของบางผู้แสดงที่ใช้เครื่องปรับอากาศไทม์ของเรื่องมากเหลือเกิน แต่มิได้มีการขมวดปมเป็นพิเศษ ถือว่าโชคร้าย ส่วนแฟนคลับที่มองประเด็นนี้ด้วยเหตุว่าต้องการมองการแสดงของ วิเวียน ซู ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นอดีตขวัญใจชายหนุ่ม ๆ

ไทยในสมัย 90 ก็จัดว่าได้มองเห็นในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นโชคร้ายที่บทในเรื่องอยู่ในระดับตัวรองๆมากยิ่งกว่า ซึ่งหากว่าคุณจะมีบทออกมาตลอดเรื่อง แต่ว่าก็มิได้ช่องทางสำหรับเพื่อการแสดงความสามารถสำหรับเพื่อการแสดงเยอะแค่ไหน เลยค่อนข้างจะโชคร้าย

ไปสักนิดสักหน่อย สำหรับช่วงท้ายเรื่องจนกระทั่งตอนสุดท้าย หนังให้แง่คิดที่ดีเลิศนะครับเกี่ยวกับเรื่องราวของการปล่อยวาง ไปจนกระทั่งการรับความผิดพลาดของตัวนำอย่างอาม๊า ที่ก็มิได้เป็นคนดีพร้อมเต็มเปี่ยม แม้กระนั้นก็เคยทำผิดพลาดไว้เช่นกัน

รวมทั้งเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผัวของตัวเองไม่อาจจะกลับมาอยู่กับครอบครัวได้ ซึ่งจากที่ผู้กำกับหัวข้อนี้ถ่ายทอดออกมาว่ามาจากประสบการณ์จริงในชีวิต ก็เป็นส่วนที่สรุปในด้านหลังเรื่องได้ดิบได้ดี ภาพรวมแล้ว นี่เป็นภาพยนตร์ไต้หวันระดับเอารางวัล แนวดราม่า

ที่ชี้แนะครับผม บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่หนังแนวระเบิดอารมณ์ บาดใจ ดราม่าร้ายแรง แต่ว่าก็เป็นแถวสะท้อนชีวิตที่ดูแล้วน่าจะมีผลให้คนจำนวนไม่น้อยหวนมานึกถึงครอบครัวของตนบ้าง ไม่มากมายก็น้อย