กึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ โกสท์ แลป หนัง “ฉีกกฎทดลองผี” ที่เพียรพยายามสยดสยองเยอะแยะจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นตลกขบขันแบบไม่ตั้งใจ
กึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ แนวสยองขวัญวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับการทดสอบพิสูจน์ชีวิตข้างหลังความตาย ที่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตเข้าแลกเปลี่ยน กล้ากับวี แพทย์เพื่อนสนิทกำเนิดมองเห็น ‘ผี’ ด้วยตาตนเองเป็นครั้งแรก การเผชิญหน้าคราวนี้ทำให้ทั้งสองอยากได้ค้นหาคำตอบเรื่องผีและก็ข้อยืนยันเกี่ยวกับชีวิตข้างหลังความตาย การลุ่มหลงยึดติดด้วยเหตุว่าต้องการรู้โดยไม่คิดหน้าคิดข้างหลังทำให้พวกเขาถลำลึกจนถึงกู่ไม่กลับ แล้วก็อาจจะก่อให้ทั้งสองจำเป็นต้องสูญเสียมิตรภาพรวมทั้งผู้ที่ตนรักไป ผลงานจากค่ายจีดีเอช ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ที่เน้นย้ำทำแนวสยองขวัญจากผลงานแจ้งกำเนิด บอดี้ ศพ19 (2550) รวมทั้งดูแล 4 กับ 5 แพร่งตอน “ยันต์สั่งตาย” กับ “หลาวชะโอน”
ซึ่งมาครั้งนี้เสมือนตั้งอกตั้งใจฉีกกฎหนังผีเต็มกำลังด้วยการใช้แนววิทยาศาสตร์การทดสอบมาร่วมด้วย ซึ่งในตอนแรกมีความรู้สึกว่าเหมือน ขอตายวูบเดียว หนังสยองขวัญครึ่งผีครึ่งวิทยาศาสตร์มีชื่อเสียงในสมัยก่อนที่พึ่งพิงมารีเมคทำใหม่ไม่นานนี้ ด้วยพล็อตปรารถนาทดสอบพิสูจน์หาชีวิตข้างหลังความตายเช่นกัน แต่ว่าโกสแล็บย้ำไปที่เรื่องราวการทดสอบให้ผีปรากฎตัว
ซึ่งตัวเรื่องมองตั้งมั่นให้มีความแปลกใหม่กับหนังผีไทย เมื่อเรื่องเริ่มจากการรับรองหาผีในแบบต่าง ๆ แต่ว่าที่หนังประยุกต์ใช้กลับมิได้ใหม่ซะทีเดียว เพราะเหตุว่าหนังผีแนวพิสูจน์บ้านผีก็เคยนำแนวทางเหล่านี้มาใช้จนกระทั่งเกร่อแล้ว อย่างกล้องถ่ายรูปได้ความร้อน หรือการใช้กล้องถ่ายภาพถ่ายผีโดยตรงไม่ติดตามกฎในเรื่องที่กล่าวถึงว่ายุคนี้มีกล้องถ่ายรูปมากไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะอะไรไม่มีคลิปผีจะ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นการยืนยันโดยการถ่ายพวกปรากฎการณ์ โพลเตอร์ไกสท์ ก็คือปรากฎการณ์ผีหลอกจากข้าวของเครื่องใช้เคลื่อนที่ได้ ทำให้ตัวเรื่องที่ดูเหมือนจะแปลกใหม่ ก็มิได้มีอะไรแปลกให้มองเห็นเลย
ร้ายยิ่งกว่านั้นยังเปลี่ยนเป็นว่าความอุตสาหะให้หัวข้อนี้ฉีกกฎต่าง ๆ ของหนังผี กลายเป็นความไม่สมเหตุผลจนกระทั่งขั้นเฮฮา (อย่างไม่ตั้งใจ) กับบทหนังที่อุตสาหะเอาจริงเอาจังสุดชีวิตไปแทน ตัวหนังครึ่งแรกวนเวียนอยู่กับการทดสอบบันทึกปรากฎการณ์ผีแบบต่าง ๆ ซึ่งจำต้องบอกก่อนว่าประเด็นนี้ผู้แสดงนำบอกเองว่าผีมองเห็นยากสูงถึงเยอะที่สุด เรียกว่ามีตอนที่เล่าว่าไปพิสูจน์มาทั่วทั้งโลกสุดแท้แต่ไม่พบอะไร แม้กระนั้นเรื่องกลับเปิดมาแปบเดียวทั้งสองดันพบผีคนเสียชีวิตในโรงหมอ ด้วยท่าหลอกแบบขำขัน ๆ ที่ไม่รู้เรื่องเช่นกันทำอะไร (จำเป็นต้องไปดูเองแต่ว่ามั่นใจว่าคงจะขำกันทุกคน)
แม้กระนั้นสรุปว่าเรื่องสตาร์ทด้วยการเห็นผีง่ายเสมือนไป 7-11 ได้เลยต่อจากนั้น เพราะว่าถัดมาต้องการพบก็พบ หาพบได้ทั่ว ๆ ไปในโรงหมอ เอากล้องถ่ายรูปได้ความร้อนมาถ่ายก็พบ โทรศัพท์มือถือกับกล้องวงจรปิดก็ถ่ายปรากฎการณ์โพลเตอร์ไกสท์ได้บานตะเกียง แม้กระนั้นเรื่องก็ยังมานะไปต่อโดยกล่าวถึงว่าเพียงนี้ยังเป็นหลักฐานน้อยเกินไปพิสูจน์ว่าผีมีจริง ซึ่งความบากบั่นไปต่อแบบไม่เมคเซนส์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการพยายาม “แถก” ให้มีเรื่องมีราวพิสูจน์ผีไปเรื่อยแล้วก็ตามมาด้วยอะไรที่ผู้ผลิตอาจไม่ได้ตั้งใจให้ตลกโปกฮา ข่าวหนัง มาร์เวล
แม้กระนั้นจำต้องพูดว่าคนเขียนนี่จำต้องมานะกลั้นขำไว้ตลอดเพราะเหตุว่านี่มันเป็นหนังผี พวกเราจะขำมิได้สักครู่ไม่ถูกฟีลหมด ตอนช่วงหลังของเรื่องเป็นการพยายามพิสูจน์สิ่งที่ทำให้เกิดผีด้วยการสังหารเข้าแลกเปลี่ยน ซึ่งก็เสมือนเรื่องไปสู่โหมดดาร์คสุดกำลังเมื่อตัวนำกล้ากับวีคนใดคนหนึ่งจะต้องยอมตายเพื่อเป็นตัวทดสอบผีจากโลกหลังความตาย ซึ่งการมาถึงจุดนี้เรื่องก็มานะบิ้วกันมาก่อนให้แม่ของวีเป็นคนเจ็บติดเตียงรอคอยวันตาย ส่วนกล้าก็บ้าต้องการพิสูจน์ให้ได้หากแม้สังหารเข้าแลกเปลี่ยน โอเคถึงแม้เหตุผลมันบางครั้งอาจจะไม่ถึงจุดที่สุด แต่ว่ากับการดูเพื่ออินกับเรื่องก็จะต้องยอมละเลยส่วนนี้ไป
แม้กระนั้นยังไม่ทันไรเรื่องก็ออกแนว “ขบขันแบบไม่ตั้งใจ” ขึ้นมาซะงั้น เมื่อทั้งสองต่าง “แย่งกันตาย” เมื่อตกลงกันมิได้ก็เลยใช้การโยนเหรียญหัวก้อยเสี่ยงดวงซะงั้น เอาว่ายอมละเลยจุดเริ่มต้นอย่างนี้ไปก็ได้ แม้กระนั้นต่อจากนี้บทราวกับเริ่มเขียนมาเพื่อกะให้เป็นแถวผีสยองขวัญกันเต็มกำลัง แต่ว่าเนื่องจากว่าเรื่องมันเป็นการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ มันก็เลยราวกับทางสองแพร่งของเรื่องว่าจะเอาไงดี
เมื่อผีก็พากเพียรกลับมาช่วยการทดสอบพิสูจน์คำถามต่าง ๆ ในแนวสยดสยองคลุ้มคลั่งขึ้นเรื่อยแม้กระนั้นในอีกมุมหนึ่งก็ดันเป็นอารมณ์ผีทั่ว ๆ ไปที่ตายรวมทั้งมีห่วงคนเป็นที่ตัวเองรักซะงั้น มาแนวดราม่ากะให้ซึ้งกันไปเลย ซึ่งทั้งคู่แนวมันดันผสมปนกันมั่วไปหมด ผู้กำกับก็ดูเหมือนจะพากเพียรเป็นอย่างมากกับการทั้งยังยำอีกทั้งลาก ปั่นสองแนวทางลักษณะนี้ให้มันรวมเข้าด้วยกันให้ได้ เอาว่านักเขียนขอแยกเป็นหัวข้อย่อย ๆ ให้แจ่มแจ้งละกันนะครับจะได้เข้าใจง่ายขึ้น
กึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ มุมของวิทยาศาสตร์พิสูจน์ผี
กึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ เมื่อเรื่องให้คู่คิดที่ตายไปตามคำสัญญากลับมาด้วยเหตุไม่คาดคิด ทำนองว่าอยู่ ๆ ก็มีพลังเพื่อมาช่วยเพื่อนฝูงทำทดสอบต่อ บทหนังราวกับหาทางไปแบบมีเหตุมีผลมิได้ขึ้นมาซุกซน ๆ เป็นคงจะไม่เคยทราบว่าจะมีผลให้นักแสดงที่เหลืออยู่ตามลำพังคนเดียวเล่นกับที่ว่างเปล่าในห้องว่าง ๆ ได้ยังไง จะเอาการโพลเตอร์ไกสท์มาใช้อีกก็ไม่ได้อะไร
เนื่องจากว่าระยะแรกของเรื่องก็บอกเองว่าโพลเตอร์ไกสท์มิได้ช่วยพิสูจน์ว่าผีมีจริง ท้ายที่สุดก็เลยหาทางออกกันซน ๆ ให้ผีที่ตายไปติดต่อสื่อสารกับผู้ที่คงเหลือด้วย “การพิมพ์คาราโอเกะ” อ่านไม่ผิดหรอก ผีในเรื่องพิมพ์คาราโอเกะจริง ๆ ผ่านโน๊ตบุ๊คผู้ตายกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ตัวนำถืออยู่ ซึ่งก็ไม่รู้เรื่องว่าเพราะอะไรผีกดเปลี่ยนแปลงภาษาไม่เป็น เป็นแพทย์พิมพ์ อังกฤษ คุยกันในบางช่วงน่ะสมเหตุผลเพียงพออยู่
แม้กระนั้นการพิมพ์คาราโอเกะทับศัพท์คำไทยเพื่อเป็นเงื่อนอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง แปลความหมายไม่ถูกไปอีกอย่างในรูปภาพข้างล่างนี้ เป็นอย่างไรที่บ้า ๆ บอ ๆ เอามาก ๆ แม้ว่าจะเพื่อเอาเงื่อนที่ตรงนี้มาสร้างฉากดราม่าก็ตาม แต่ว่าในเรื่องก็ยังมีการติดต่อและทำการสื่อสารแบบผีพิมพ์คาราโอเกะคุยกลับมาหาอยู่เสมอเวลา ซึ่งจริง ๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาไปพิสูจน์ให้บุคคลอื่นมองได้แล้วว่าผีพิมพ์แจ้งชัด
แม้กระนั้นเรื่องก็บากบั่นแถกว่ายังไม่เพียงพอ ควรเป็นการปรากฎตัวตนให้คนอื่น ๆ มองเห็นเลยสิถึงจบการทดสอบนี้ได้ เมื่อเรื่องเพียรพยายามไปต่อก็หันมาใช้แนว นักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่ง ที่มานะกระทำการทดสอบให้ผีปรากฎตัวแบบล้ำเส้น ด้วยสมมติฐานว่าผีมีพลังเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จากอารมณ์ต่าง ๆ ตัวหนังก็ให้ผู้แสดงนำที่ยังอยู่คลั่งขึ้นเรื่อยกับการทดสอบรังควานตนเองให้ผีเพื่อนฝูงมาคุ้มครองปกป้อง ไปจนกระทั่งพาแฟนเพื่อนพ้องมาข่มขืนกระทำชำเราเพื่อผีหวง
ซึ่งเรื่องระยะนี้อัดแนวสยดสยองมากะให้น่าขนลุกสุดกำลัง เสมือนได้ช่วงขายแนวนี้เต็ม ๆ แล้ว เพราะว่าบทในขณะนี้เป็นนักวิทยาศาสตร์บ้า ต้องการทำไรก็ทำ ฉะนั้นก็เลยปราศจากความสมเหตุผลมาเกี่ยวแล้ว อะไรก็เป็นได้หมด ซึ่งนักเขียนโอเคนะถ้าเกิดจะใส่แนวสยดสยองกันเต็ม ๆ อย่างนี้ แต่ว่ามันดันมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนเป็นขบขันแบบไม่คาดคิดจนได้อยู่ดี ยกตัวอย่าง ผีที่ไม่มีตัวตนแต่ว่ารังควานคนได้ปาว ๆ กลับมาสิงศพเพื่อมีร่างไล่ฆ่าเพื่อนพ้อง (แอบราวกับเทอมิเนเตอร์ด้วย เชิญชวนขำนิด ๆ ) ก่อนคิดได้หันมาปั๊มหัวใจช่วยสหายงี้ก็ได้หรอ แผนการลับของรัฐ
ซึ่งแปลงเป็นความไม่สบายของบทแบบไม่น่าเชื่อ ในที่สุดหัวข้อการทดสอบก็ตัดจบแบบมึนงง ๆ เหตุว่าเอาอะไรส่งไปให้แมกกาซีนวิทย์ของต่างประเทศเพื่อหวังเผยแพร่ขึ้นปกแบบที่ตั้งหัวใจทีแรก ๆ หนังจบส่วนนี้แบบสั้น ๆ แม้กระนั้นก็ยังแอบมีส่งท้ายให้เสร็จในฝัน เพื่อเป็นฉากจบที่มองฟีลกู๊ด ยืนหยัดรักษาคอนเซ็ปต์จบแบบมีคติสอนใจผู้ชมตามสูตรจีดีเอช หรือไรก็ไม่เคยรู้จริง ๆ
มุมดราม่าพักหลัง
กึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ ตัวเรื่องเอาผีที่ตายไป ๆ มา ๆ พิมพ์แมสเซจสั้น ๆ บอกเพื่อนพ้องว่า ต้องการทำโน่นนี่เพื่อจัดการเรื่องค้างคาใจให้ผู้ที่ยังอยู่สุขสบาย ซึ่งคนเป็นที่ยังก็คือทำใจไม่ได้กับการถึงแก่กรรมจากไปแบบไร้เหตุผล ที่ตัวนำอีกคนปกปิดไว้ว่าจริง ๆ ตายจากการทดสอบ ทำให้หนังจะต้องสละช่วงไปจัดการเงื่อนเหล่านี้ ซึ่งจำเป็นต้องพูดว่าตัวหนังคิดต้องการจะตัดตอนมาดราม่าก็มา ตัดกลับไปสยดสยองกลับมาดราม่าในระยะนี้ให้ผู้ชมปรับตามกันไม่ทันเลย
ซึ่งถ้าเกิดตอนดราม่ามีเวลาเล่าลงลึกสุดกำลังเพื่อดิ่งไปกับมัน หนังหัวข้อนี้ก็คงจะมีอะไรที่คงจะไปทางนี้ก้าวหน้าอยู่ เนื่องจากเงื่อนการถึงแก่กรรมแบบไม่มีเหตุแจ้งทำให้เล่นเรื่องราวนี้ได้ตรง ๆ แต่ว่าการที่จะต้องแบ่งฉากไปสยดสยองบ้างดราม่าบ้าง ทำให้ท้ายที่สุดดราม่าที่อุตสาหะลากให้คนซึ้ง เปลี่ยนไปเป็นไปไม่ถึงไหนเลยซะมากยิ่งกว่า กระทั่งตอนสุดท้ายที่อยู่ ๆ
เรื่องราวก็หักลำที่ทำมาทั้งปวง เมื่อผีที่ต้องการทำทดสอบมาตลอดจู่ ๆ ก็กล่าวว่าเพียงพอล่ะ คิดได้ล่ะว่าไม่สมควรโน่นนี่ ฉากท้ายที่สุดของเรื่องราวก็เลยแปลงทันทีมาเป็นอะไรที่บรรเทาเรื่องให้จบลงแบบง่าย ๆ พากเพียรดราม่ากันสุดกำลัง แต่มิได้มีอะไรน่าจำกลับมาเลย หน้าที่ของผู้แสดง พาริส อินทรโกมาลย์สุต กับ ธนโลก ลีรัตนแพร่ ในบทกล้ากับวี เป็นยังติดภาพศิลปินวัยรุ่นมากยิ่งกว่าจะน่าไว้วางใจว่าเป็นแพทย์ ทั้งคาแรกเตอร์ระยะแรกยังมองทะเล้น ๆ ไม่ถูกกับแนวเรื่องที่ควรจะมองซีเรียสเป็นจริงเป็นจังกับนักวิทยาศาสตร์ ทำให้ทั้งสองมองแสดงแบบล้น ๆ ไปหมดกับทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างในเรื่อง
เป็นปัญหาบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ดาราโดยตรง เนื่องจากว่าบทดันบังคับให้จะต้องแสดงแบบขาดเหตุผลน่าเชื่อสักเท่าไหร่ด้วย แม้กระนั้นที่สะดุดคตาเป็น ณัฏฐณิชา ดังวัธนาการค้า นางเอกในเรื่องที่เป็นบทสมทบมากยิ่งกว่า คุณงามเด่นจริง ๆ แม้กระนั้นบทนี้ก็เป็นเพียงแค่สมทบอะไรบางอย่าง มิได้ได้โอกาสให้แสดงอารมณ์ความรู้สึกอะไรมากมาย ซึ่งทั้งยังเรื่องแทบเล่นกันอยู่เพียงแค่ผู้แสดงกล้ากับวีอยู่แล้วด้วย
แอบมีความคิดว่าเป็นบทแนวทุนต่ำจำกัดนักแสดงในวงแคบ ๆ ได้แบบเดียวกัน หนังผีที่บากบั่นอย่างยิ่งที่จะแปลกหนังผีไทย แต่ว่าบทกลับไปไม่ถึงไหน หลายสิ่งที่พรีเซนเทชั่นมิได้ใหม่เลยกับผู้ชมหนังผีแนวท้าทายพิสูจน์แบบต่าง ๆ ที่เคยมีมาก่อนมากมายแล้ว แม้กระนั้นปัญหาของความจริง ๆ เป็นความเพียรพยายามลากเรื่องให้น่าสยองแบบมีเหตุมีผลพร้อมกันไปกับแนวคิดวิทยาศาสตร์ แต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จด้วยเหตุว่าเหตุผลกับการดำเนินเรื่องมันไปกันมิได้